1. แบตเตอรี่ลดเร็วกว่าปกติ
ถ้าหากปกติแบตเตอรี่เมื่อชาร์จเต็มแล้วสามารถใช้งานได้ทั้งวันแบตเตอรี่จึงจะใกล้หมด แต่ถ้าหากแบตเตอรี่เริ่มหมดเร็วกว่าปกติอย่างเห็นได้ชัด เช่น ใช้ได้ไม่ถึงครึ่งวันหรือหมดเร็วกว่านั้น ก็เป็นตัวบ่งบอกว่าแบตเตอรี่นั้นมีการเสื่อมสภาพค่อนข้างมากแล้ว รวมทั้งเปอร์เซ็นต์ของแบตเตอรี่ที่ลดลงเรื่อย ๆ ขณะใช้งานถ้าหากลดครั้งละหลายเปอร์เซ็นต์ก็เป็นอาการของแบตเตอรี่เสื่อมเช่นกัน (ตามปกติแล้วจะลดครั้งละ 1%)

2. ความจุไฟลดลง
แบตเตอรี่เมื่อผ่านการใช้งานแล้วความจุลดลงเรื่อย ๆ ตามอายุการใช้งาน ซึ่งแบตเตอรี่ที่เริ่มเสื่อมสภาพจะมีความจุไฟน้อยกว่าแบตเตอรี่ใหม่ ๆ อย่างเห็นได้ชัด โดยส่งผลให้เวลาชาร์จจะเต็มไวกว่าปกติ และแบตเตอรี่ก็จะหมดเร็วกว่าปกติ

3. ปริมาณแบตเตอรี่ไม่คงที่
ปริมาณของแบตเตอรี่ที่แสดงเป็นตัวเลขเปอร์เซ็นต์นั้น ในกรณีที่แบตเตอรี่เริ่มเสื่อมสภาพอาจมีอาการแสดงเปอร์เซ็นต์ฺไม่คงที่ เช่น เพิ่งชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 100% แต่ผ่านไปไม่กี่นาทีแบตเตอรี่ก็ลดลงเหลือ 70% แต่พอผ่านไปสักพักกลับขึ้นมาเป็น 85% ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จเพิ่ม

4. เครื่องดับแบบไร้สาเหตุ
ถ้าหากมีอาการเครื่องดับขณะใช้งานตามปกติ โดยที่ไม่ได้มีสาเหตุมาจากอย่างอื่น เช่น เครื่องค้างหรือแอปฯ ค้าง รวมทั้งการที่เครื่องดับขณะที่ไม่ได้ใช้งาน คือเมื่อหยิบเครื่องมาจะใช้งานก็พบว่าเครื่องดับไปเสียแล้ว อาการดังกล่าวก็อาจมาจากแบตเตอรี่เสื่อมด้วยเช่นกัน

5. แบตเตอรี่บวม
แบตเตอรี่ที่เสื่อมมาก ๆ อาจมีอาการปูดบวมของตัวแบตเตอรี่ ซึ่งถ้าหากเป็นมือถือสมัยก่อนที่สามารถเปิดฝาถอดแบตเตอรี่ออกมาดูได้ก็จะสามารถมองเห็นได้ชัด แต่สำหรับมือถือยุคใหม่ที่เปิดฝาหลังเครื่องไม่ได้ ถ้าหากแบตเตอรี่บวมก็อาจดันฝาหลังหรือหน้าจอให้ปูดบวมหรืออ้าเผยอขึ้นมา


6. แบตเตอรี่ใช้มาหลายปีแล้ว

อายุการใช้งานของแบตเตอรี่นั้นตามปกติจะอยู่ที่ประมาณ 2-4 ปี ซึ่งถ้าหากแบตเตอรี่นั้นมีการใช้งานมามากกว่า 2 ปีแล้วมีอาการต่าง ๆ ตาม 5 ข้อข้างบน ก็ยิ่งสามารถฟันธงได้ว่าแบตเตอรี่น่าจะเสื่อมแน่ ๆ โดยยิ่งแบตเตอรี่ผ่านการใช้งานมานานเท่าไรก็จะยิ่งมีโอกาสเสื่อมมากขึ้นเท่านั้น
ขอขอบคุณข้อมูลจาก https://www.whatphone.net

โปรเน็ตเพิ่มเติมคลิ๊ก
https://www.facebook.com/net.dtac.kaidee/?ref=your_pages.

#netdtackaidee

#สมัครเน็ตดีแทคโปรเน็ตดีแทคเน็ตดีแทคdtacเน็ตดีแทครายวันโปรเน็ตขายดี