Apple เตรียมปล่อยให้ดาวน์โหลด iOS 15, iPad OS 15, watchOS 8 และ tvOS 15 ในไทย คืนนี้

Apple เตรียมปล่อยให้ดาวน์โหลด iOS 15, iPad OS 15, watchOS 8 และ tvOS 15 ในไทย คืนนี้

Apple กำลังจะปล่อยระบบปฏิบัติการใหม่ อย่างเป็นทางการทั้ง iOS 15, iPad OS 15, watch OS 8, tvOS 15 สำหรับประเทศไทยจะตรงกับเที่ยงคืนของวันที่ 21 กันยายน นี้

สำหรับอุปกรณ์ที่สามารถดาวน์โหลดได้มีดังนี้


iOS 15 (iPhone / iPod Touch)

  • iPhone 12 และ 12 mini
  • iPhone 12 Pro และ 12 Pro Max
  • ‌iPhone SE‌ (2020)
  • iPhone 11
  • ‌iPhone 11‌ Pro และ 11 Pro Max
  • ‌iPhone‌ XS และ XS Max
  • iPhone XR
  • ‌iPhone‌ X
  • ‌iPhone‌ 8 และ 8 Plus
  • ‌iPhone‌ 7 และ 7 Plus
  • ‌iPhone‌ 6s และ 6s Plus
  • ‌iPhone SE‌ (2016)
  • iPod touch (รุ่นที่ 7)

iPad OS (iPad)

  • iPad Pro ทุกรุ่น
  • iPad (รุ่นที่ 5 และใหม่กว่า)
  • iPad mini (รุ่นที่ 4 และใหม่กว่า)
  • iPad Air (รุ่นที่ 3 และใหม่กว่า)
  • ‌iPad Air‌ 2

สำหรับ Watch OS 8 นั้นอัปเดตได้ตั้งแต่ Apple Watch Series 3, Series 4, Series 5, และ Series 6 ส่วน tvOS 15 นั้นจะรองรับกับ Apple TV 4K ทั้งรุ่นแรกและรุ่นที่ 2 แต่ถ้าเป็น Apple TV ความละเอียด HD ไม่สามารถดาวน์โหลดได้

ขอบคุณข้อมูล – Sanook

·   

·        

เปิดตัว Xiaomi 11T Pro สมาร์ทโฟนชาร์จไว แบตฯเต็มภายใน 17 นาที

เปิดตัว Xiaomi 11T Pro สมาร์ทโฟนชาร์จไว แบตฯเต็มภายใน 17 นาที

Xiaomi เปิดตัว XIAOMI 11T Pro และ XIAOMI 11T Series จัดสเปคหนักด้วย  Dimensity 1200 และ XIAOMI 11T Pro จัดหนักด้วยชิปแห่งที่สุดของการเล่นเกมอย่าง Snapdragon 888 ใช้จอ AMOLED ที่ได้คะแนน A+ จาก DisplayMate ด้วยเปิดตัวแล้ว XIAOMI 11T Pro กับสเปคที่จัดหนัก

  • หน้าจอ AMOLED 6.67 นิ้ว (FHD+), รองรับแสดงผล 120Hz HDR10
  • รองรับ Dolby Vision
  • ความจุ 128GB/256GB (UFS 3.1)
  • ใช้ชิป Snapdragon 888 + แรม 8GB
  • ระบบ Android 11 (MIUI 12.5)
  • กล้องหลัก 108MP OIS F1.8 + Ultra-Wide 8MP, Macro 5MP
  • กล้องหน้า 16MP
  • แบตเตอรี่ 5000 mAh (มีชาร์จเร็ว 120W แถมที่ชาร์จในกล่อง) ซึ่งชาร์จเต็มภายใน 17 นาที 
  • สามารถชาร์จไฟได้แม้อยู่ในอุณหภูมิระดับ -10 องศาเซลเซียส

ราคา Xiaomi 11T Pro 

  • 649 ยูโร (8GB+128GB)
  • 699 ยูโร (8GB+256GB)
  • 749 ยูโร (12GB+256GB)

สเปค Xiaomi 11T

  • หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว (FHD+), รองรับแสดงผล 120Hz HDR10
  • ความจุ 128GB/256GB (UFS 3.1)
  • ชิป Dimensity 1200 + แรม 8GB
  • ระบบ Android 11 (MIUI 12.5)
  • กล้องหลัก 108MP F1.8 OIS + Ultra-Wide 8MP, Macro
  • กล้องหน้า 16MP
  • แบตเตอรี่ 5000 mAh (มีชาร์จเร็ว 67W)ชาร์จเต็มภายใน 37 นาที

ราคา Xiaomi 11T

  • 499 ยูโร (8GB+128GB)
  • 549 ยูโร (8GB+256GB)

ทั้งนี้ Xiaomi 11T Pro กับ Xiaomi 11T ใช้สโลแกนว่า Cinemagic เป็นโทรศัพท์มือถือที่เน้นฟีเจอร์ด้านการถ่ายวิดีโอ รองรับ 5G ทั้ง 2 ซิม มือถือรุ่นนี้จะเตรียมจำหน่ายในไทยในวันที่ 23 กันยายน 2021 ที่จะถึงนี้

เทียบ iPhone 13 ต่างจาก iPhone 12 อย่างไรบ้าง ?

เทียบ iPhone 13 ต่างจาก iPhone 12 อย่างไรบ้าง ?

เปรียบเทียบ iPhone 12 กับ iPhone 13 อย่างไรบ้าง

1. รุ่นเล็กสุดราคาต่างกัน 4,000 บาท

เปรียบเทียบ iPhone 12 กับ iPhone 13 รุ่นเล็กสุดราคาต่างกัน 4,000 บาท ส่วนต่างที่เพิ่มขึ้นมานี้ ไอโฟน 13 ได้ความจุเริ่มต้น 128GB ในขณะที่รุ่นก่อนเริ่มต้น 64GB ใครที่กำลังเปรียบเทียบราคาความคุ้มค่าทั้งสองรุ่น ต้องมองข้ามราคาไปที่คุณสมบัติอื่นด้วย ในตระกูล iPhone 13 แบ่งความจุออกเป็น 128GB, 256GB และ 512GB

2. แบตเตอรี่นานขึ้น

ใน iPhone 13 แบตเตอรี่สำหรับเล่นวิดีโอ นานขึ้น 2 ชั่วโมง และหากเปิดผ่านสตรีมมิงจะนานขึ้น 4 ชั่วโมง ส่วนใครที่ชอบฟังเพลง สามารถเล่นเพลงได้สูงสุด 75 ชั่วโมง ถือว่านานกว่าเดิม 10 ชั่วโมง ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง

3. หน้าจอ Refresh Rate 120Hz

รุ่นใหม่ เพิ่มความสมูธของการสลับสับเปลี่ยนหน้าใช้งานต่างๆ ด้วยหน้าจอ Refresh Rate 120Hz ซึ่งรุ่นเดิมอยู่ที่ 60Hz ต้องวางจอเทียบกันทีละแอป ถึงจะเห็นความต่าง

4. iPhone 13 หนาขึ้นและหนักขึ้นเล็กน้อย

เมื่อเทียบขนาดระหว่าง iPhone 12 และ iPhone 13 รุ่นใหม่นั้นมีความหนาเพิ่มขึ้นเพียง 0.25 มิลลิเมตร และหนักขึ้น 11 กรัม ไม่ส่งผลต่อการใช้งานที่แตกต่าง แต่ก็พอจะบอกได้ว่าใส่เคสร่วมกันไม่ได้แน่นอน

5. iPhone 13 มีสีชมพู

ถ้ามองความต่างเรื่องสี iPhone 13 สีชมพู มีนัยสำคัญกับผู้ใช้สายหวานหรู สังเกตได้ว่ารุ่นนี้เอาสีทองออกไป ไม่มีอีกแล้วกับสีโกลว์ ส่วนสีขาวนั้นก็ปรับเป็นความเปล่งประกายที่เรียกสีนี้ว่า “สตาร์ไลท์” ถ้าใครเป็นคนที่ตัดสินใจซื้อมือถือเพราะสีสัน ความต่างนี้ก็ดูสำคัญ

6. ชิป A15 Bionic 5 นาโนเมตร

ค่ายต่างๆ เร่งพัฒนาระบบปฏิบัติการสำหรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตไร้สาย 5G ซึ่งมีความเร็วเทียบเท่ากับการใช้เน็ตบ้านต่อเข้ากับเครื่องแลปทอปโดยตรง ทางแอปเปิลก็เคลมว่า ชิป A15 Bionic เป็นชิปที่เร็วที่สุดสำหรับสมาร์ทโฟน ซึ่งส่วนนี้ต้องรอคนได้ใช้จริงออกมารีวิว

เปรียบเทียบ iPhone 13 กับ iPhone 12 รุ่น Pro และ Pro Max

หลังจากที่ทราบความแตกต่างของ iPhone 12 และ iPhone 13 ในรุ่นเล็กสุดไปแล้ว ลองขยับมามองรุ่นพี่กันบ้าง เมื่อต้องการเปรียบเทียบ ต้องเลือกมวยให้ถูกรุ่น โดยเทียบ iPhone 13 Pro กับ iPhone 12 Pro แล้วค่อยไปเทียบ iPhone 13 Pro Max กับ iPhone 12 Pro Max

ความต่างระหว่าง iPhone 13 Pro และ iPhone 12 Pro

ความละเอียดของกล้องหน้าและกล้องหลังของสองรุ่นนี้เป็น 12MP แล้ว แต่ความต่างที่ชัดเจนอยู่ที่ความจุ 1TB ที่มีมาให้เลือกใน iPhone 13 Pro รุ่นใหม่ รวมถึงฟีเจอร์การใช้งาน “สไตล์ภาพถ่าย” และ การบันทึกวิดีโอ รายละเอียดความต่างอื่นๆ ของ iPhone 13 Pro มีดังนี้

– ชิป A15 Bionic

– เล่นวิดีโอได้นานกว่า 5 ชั่วโมง

– ความจุสูงสุด 1TB เพิ่มขึ้นมา

– เทคโนโลยี ProMotion ที่มีอัตราการดึงข้อมูลใหม่แบบปรับได้สูงสุดที่ 120Hz

– ปรับความสว่างสูงสุด 1,000 นิต รุ่นเดิม 800 นิต

– หนาขึ้น 0.25 มิลลิเมตร

– น้ำหนักมากขึ้น 20 กรัม

– ต่างที่กล้อง Telephoto

– มีคุณสมบัติ “สไตล์ภาพถ่าย” ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ในรุ่นก่อนไม่มี

– โหมดภาพยนตร์สำหรับการบันทึกวิดีโอที่มีมิติความชัดตื้น (1080p ที่ 30 fps)

– บันทึกวิดีโอ ProRes สูงสุด 4K ที่ 30 fps (1080p ที่ 30 fps สำหรับพื้นที่จัดเก็บข้อมูล ความจุ 128GB) ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง

ความต่างระหว่าง iPhone 13 Pro Max และ iPhone 12 Pro Max

ต้องยอมรับว่า Pro Max เป็นรุ่นที่พัฒนามาให้หน้าจอใหญ่ขึ้น เพราะฉะนั้นสถาปัตยกรรมภายในเครื่องจะต้องประมวลผลให้ผู้ใช้งานรู้สึกไม่สะดุด iPhone 13 Pro Max และ iPhone 12 Pro Max เป็นโทรศัพท์ 5G จอใหญ่ที่ถูกจับตามองว่าเครื่องจะร้อนเวลาใช้งาน หรือเล่นเกมหรือไม่ รายละเอียดความต่างอื่นๆ ของ iPhone 13 Pro Max ที่เพิ่มเติมขึ้นมา มีดังนี้

– ชิป A15 Bionic

– ช่วงซูมแบบออปติคัล 6 เท่า รุ่นเดิม 5 เท่า

– GPU แบบ 5‑core ใหม่ รุ่นเดิม 4-core

– เล่นวิดีโอได้นานกว่ารุ่นก่อน 8 ชั่วโมง

– มีความจุ 1 TB เพิ่มขึ้นมาตั้งแต่รุ่น iPhone 13 Pro

– จอภาพมีเทคโนโลยี ProMotion ที่มีอัตราการดึงข้อมูลใหม่แบบปรับได้สูงสุดที่ 120Hz โดยรุ่นก่อนไม่มี

– ปรับความสว่างสูงสุด 1,000 นิต รุ่นเดิม 800 นิต

– หนาขึ้น 0.25 มิลลิเมตร

– น้ำหนักมากขึ้น 12 กรัม

– มีคุณสมบัติ “สไตล์ภาพถ่าย” ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ในรุ่นก่อนไม่มี

– โหมดภาพยนตร์สำหรับการบันทึกวิดีโอที่มีมิติความชัดตื้น (1080p ที่ 30 fps)

– บันทึกวิดีโอ ProRes สูงสุด 4K ที่ 30 fps (1080p ที่ 30 fps สำหรับพื้นที่จัดเก็บข้อมูล ความจุ 128GB) ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง

สรุปความแตกต่างของไอโฟน 13 กับ ไอโฟน 12 ที่ชัดเจน

1. สี

2. ชิป A15

3. น้ำหนักที่มากขึ้น

4. มีคุณสมบัติ “สไตล์ภาพถ่าย” ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง

5. เทคโนโลยี ProMotion ในการถ่ายวิดีโอที่มีทุกรุ่น

สุดท้ายนี้ การตัดสินใจซื้อหรือไม่ซื้อของลูกค้าปี 2021 ไม่ได้มาจากความแตกต่างที่แปลกใหม่เพียงอย่างเดียว ขึ้นอยู่กับโปรโมชันบัตรเครดิตที่โดนใจ และโปรโมชันค่ายมือถือที่คุ้มค่า รวมถึงสุขภาพทางการเงินที่จะไม่ไปสะดุดกับค่าใช้จ่ายส่วนอื่นด้วย

ขอบคุณ – ไทยรัฐ 

Apple ลดราคา iPhone รุ่นเก่า หลังเปิดตัว iPhone 13

Apple ลดราคา iPhone รุ่นเก่า หลังเปิดตัว iPhone 13

Apple ลดราคา iPhone 12, iPhone 11 หลัง iPhone 13 เปิดตัว

สำหรับราคาใหม่นี้ มีผลทันทีที่ Apple Store Online ไทย

ราคาใหม่ราคาเดิมราคาที่ลด
iPhone 12 mini
64GB21,90025,900-4,000
128GB23,90027,900-4,000
256GB27,90031,900-4,000
iPhone 12
64GB25,90029,900-4,000
128GB27,90031,900-4,000
256GB31,90035,900-4,000
iPhone 11
64GB19,50022,100-2,600
128GB21,50024,500-3,000
256GB

Apple ได้เลิกขาย iPhone XR พร้อมตัดความจุ 256GB ของ iPhone 11 และ iPhone SE (รุ่นที่ 2) ออกไปแล้ว

สรุปงานเปิดตัว iPhone 13, iPad mini 6, iPad 9 และ Apple Watch Series 7 สเปค และราคาทุกรุ่น

สรุปงานเปิดตัว iPhone 13, iPad mini 6, iPad 9 และ Apple Watch Series 7 สเปค และราคาทุกรุ่น

iPhone 13 Pro, iPhone 13 Pro Max

  • ใช้ดีไซน์เหมือนเดิม รอยบากเล็กลง
  • มีสีฟ้าเป็นสีใหม่ ชื่อสีเซียร์ร่าบลู นอกนั้นสีเดิมแต่สีทองเข้มขึ้น
  • กล้องหลัง 3 ตัว
  • กล้องหน้า TrueDepth เล็กลง
  • ชิป A15 Bionic
  • ใช้จอ Super Ratina XDR (APPLE Custom OLED)
  • จอ ProMotion สูงสุด 120 Hz ปรับเฟรมเรตตามความเหมาะสมระหว่างการใช้งาน
  • แบตเตอรี่ iPhone 13 Pro ใช้งานได้นานขึ้น 1.5 ชั่วโมง ส่วน iPhone 13 Pro Max เพิ่มขึ้น 2.5 ชั่วโมง
  • เลนส์ Wide รับแสงได้มากขึ้นสูงสุด 2.2 เท่า
  • เลนส์ Ultra-Wide รับแสงได้ดีขึ้น 92% ในที่แสงน้อย / มี Auto Fucus
  • เลนส์ Telephoto ซูมแบบออปติคอลได้ 3 เท่า
  • ถ่ายมาโครด้วยเลนส์ Ultra-Wide โฟกัสได้ในระยะห่างเพียง 2 ซม.
  • ระบบกล้องมาพร้อม HDR อัจฉริยะ 4
  • โหมดใหม่ Photographic Style ปรับค่าต่าง ๆ ของกล้องได้เองตามต้องการ (รองรับ 13 ทุกรุ่น)
  • ถ่าย Night Mode ได้ทุกเลนส์
  • วิดีโอ มี Macro Slomo / ปรับค่า f ในวิดีโอได้ (Cinematic Mode )
  • ProRes รองรับ 4K 30fps
  • ความจุ 128GB, 256GB, 512GB และเพิ่มสูงสุดที่ 1TB

เปิดตัว iPhone 13 mini, iPhone 13

  • กล้องหลังแนวทะแยง
  • iPhone 13, iPhone 13 mini
  • ดีไซน์เดิมเหมือน iPhone 12 แต่รอยบากเล็กลง
  • ใช้จอ Super Ratina XDR
  • กระจกหน้าจอ Ceramic Shield
  • กันน้ำฝุ่น IP68
  • มี 5 สีใหม่ Pink, Blue, Midnight, Starlight, (PRODUCT)RED
  • กล้องหน้า TrueDepth เล็กลง
  • ปรับดีไซน์แผงวงจรใหม่ แบตเตอรี่ใหญ่ขึ้น
  • แบตเตอรี่ของ iPhone 13 mini ใช้ได้นานขึ้น 1.5 ชั่วโมง ส่วน iPhone 13 ใช้ได้นานขึ้น 2.5 ชม
  • จอสว่างขึ้น 28% ความสว่างสูงสุด 1200 นิต
  • ชิป A15 Bionic
  • ปรับปรุงกล้องหลังเซ็นเซอร์ใหญ่ขึ้น
  • ระบบกล้องมาพร้อม HDR อัจฉริยะ 4
  • กล้อง Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เก็บแสงได้เพิ่มขึ้น 47 %
  • กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์เร็วขึ้น
  • ถ่าย Night Mode ได้ทุกเลนส์
  • ถ่ายไทม์เลปส์โดยใช้ Night Mode ได้
  • โหมดสำหรับถ่ายวิดีโอใหม่ เรียกว่า Cinematic Mode
  • ความจุ 128GB, 256GB, 512GB

เปิดตัว iPad mini รุ่นที่ 6

  • ดีไซน์คล้าย iPad Air
  • ใช้ชิป A15 Bionic
  • มี 4 สี ม่วง ชมพู ทอง (Starlight) สเปซเกรย์
  • ปุ่ม Power ด้านบน
  • จอ True Tone
  • Touch ID ที่ปุ่ม Power
  • CPU เร็วขึ้น 40 %
  • GPU เร็วขึ้น 80% ถ้าเทียบกับไอแพดมินิรุ่นที่ 5
  • Neural Engine เร็วขึ้น 2 เท่า
  • พอร์ต USB-C (เชื่อมต่อเร็วขึ้น 10 เท่า)
  • รองรับ 5G ความเร็ว 3.5 Gbps
  • รองรับ Wi-Fi 6
  • กล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล f1.8 มาพร้อม True Tone flash
  • กล้องหน้า 12 ล้านพิกเซล แบบ Ultra Wide มีฟีเจอร์ Center Stage เหมือนใน iPad Pro M1
  • ใช้กับ Apple Pencil รุ่นที่ 2
  • แถม Adapter USB-C ขนาด 20W
  • ความจุเท่าเดิม แต่ราคาเพิ่มขึ้นตามดีไซน์และสเปคที่ถูกอัปเกรด
  • มาพร้อม Smart Folio Cover 5 สี

เปิดตัว iPad รุ่นที่ 9

  • ใช้ดีไซน์เดิม จอ 10.2″
  • ใช้ชิป A13 Bionic เร็วขึ้น 20% CPU GPU และ Neural Engine เร็วขึ้น!
  • กล้องหน้าความละเอียด 12 ล้านพิกเซล แบบ Ultra Wide มาพร้อมมีฟีเจอร์ Center Stage เหมือน iPad Pro M1
  • จอภาพสี True-Tone
  • ยังคงใช้งานร่วมกับ Apple Pencil รุ่นที่ 1
  • แบตเตอรี่ใช้ได้ทั้งวัน
  • ความจุเพิ่มขึ้น 2 เท่า โดยความจุมีให้เลือก 2 ขนาด คือ 64GB และ 256GB (จากเดิม 32GB และ 128GB)
  • กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
  • มาพร้อมอะแดปเตอร์ USB-C 20 W
  • มี 2 สีเหมือนเดิม คือสี Silver และ Space Grey
  • ราคาแพงขึ้นเล็กน้อยตามความจุที่เพิ่มขึ้น

เปิดตัว Apple Watch Series 7

  • ดีไซน์ตัวเรือนโค้งมนแบบเดิม
  • ลดขอบจอลง เพิ่มพื้นที่หน้าจอมากขึ้น ขอบเล็กลง 40%
  • มาพร้อมตัวเรือนขนาดใหม่ ขนาด คือ 41 mm และ 45 mm
  • จอสว่างขึ้น 70%
  • ประมวลผลเร็วขึ้น
  • ใช้งานคีย์บอร์ดบน Apple Watch ได้แล้ว เหมือนคีย์บอร์ดบนไอโฟน
  • มาพร้อมหน้าปัดไดนามิค และโมดูลาร์แบบใหม่
  • หน้าจอรองรับการแตก เป็น AW ที่แข็งแรงที่สุด
  • กันฝุ่น IPX6
  • กันน้ำมาตรฐาน WR50
  • แบตเตอรี่ใช้งาน 18 ชม
  • ชาร์จได้เร็วขึ้น รองรับ Fast charge เร็วขึ้น 33% ใช้เวลา 45 นาที ชาร์จจาก 0-80%
  • รุ่นเริ่มต้นมีสีใหม่ คือ สีเขียว และสี Starlight
  • มีฟีเจอร์ ECG และวัดออกซิเจนในเลือดได้

ราคา iPhone 13, iPhone 13 Pro ทุกรุ่น


ขอบคุณรูป และข้อมูลจาก www.iphonemod.net