ข่าวปลอม!! “แอปฯ เป๋าตัง” ให้กู้เงิน 1 หมื่นบาท

ข่าวปลอม!! “แอปฯ เป๋าตัง” ให้กู้เงิน 1 หมื่นบาท

เตือนภัยข่าวปลอม “แอปฯ เป๋าตัง” ให้กู้เงิน 1 หมื่นบาท ลงทะเบียนได้ทุกอาชีพ ตรวจสอบแล้วเป็นข่าวเท็จ

วันที่ 2 มีนาคม 2565 ตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อต่างๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง แอปฯ เป๋าตัง ให้กู้เงิน 1 หมื่นบาท ลงทะเบียนได้ทุกอาชีพ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย ธนาคารกรุงไทย พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

จากกรณีการโพสต์ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการขอสินเชื่อกับธนาคารกรุงไทย ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังนั้น ทางธนาคารกรุงไทยได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวและชี้แจงว่า ปัจจุบันยังไม่มีบริการให้สินเชื่อผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ซึ่งแอปพลิเคชันเป๋าตัง เป็นแพลตฟอร์มด้านการเงินระบบเปิด สามารถใช้บริการแม้ไม่มีบัญชีเงินฝากของธนาคารกรุงไทย ให้บริการครอบคลุมทั้งบริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-wallet)

รองรับการทำธุรกรรมโอนเงิน เติมเงิน และชำระค่าสินค้าและบริการ รวมถึงบริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ของภาครัฐ (G-wallet) รองรับการทำนโยบายของภาครัฐ บริการกระเป๋าสุขภาพ (Health Wallet) ตรวจเช็กสิทธิด้านสุขภาพผ่านเป๋าตัง บริการด้านการลงทุนพันธบัตรของรัฐผ่านวอลเล็ต สบม.รวมถึงบริการเกี่ยวกับกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ที่ช่วยให้การจัดการบัญชี กยศ. สะดวก และรวดเร็ว

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ทั้งนี้หากพบ SMS อีเมล หรือ LINE ที่มีลิงก์แอบอ้างเป็นธนาคาร หรือพบเหตุผิดปกติ สามารถแจ้งผ่าน Facebook Fanpage Krungthai Care และ Krungthai Contact Center โทร 02-111-1111 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.

ขอขอบคุณ – ไทยรัฐ



รวมโปรเน็ตดีแทคสุดแรง คลิก
facebook

#โปรเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีแทค #สมัครเน็ตดีแทค

เผยข้อมูล Xiaomi 12 series เตรียมวางจำหน่ายทั่วโลกในวันที่ 15 มีนาคม นี้

เผยข้อมูล Xiaomi 12 series เตรียมวางจำหน่ายทั่วโลกในวันที่ 15 มีนาคม นี้

แม้ว่าในงาน Mobile World Congress ประจำปี 2022 ณ เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน ไฮไลท์ของบูธ Xiaomi จะเป็นการเปิดตัวสมาร์ทโฟน “POCO X4 Pro 5G” และ “POCO M4 Pro” อย่างเป็นทางการแล้ว

ในงานครั้งนี้ยังมีข่าวความเคลื่อนไหวของสมาร์ทโฟนระดับเรือธงอย่าง Xiaomi 12 series เผยออกมาให้เราเห็นเช่นกัน ทั้งนี้แหล่งข่าวเผยว่า Xiaomi จะทำการเปิดขาย Xiaomi 12 series และว่างจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 มีนาคมนี้

gsmarena_002

Xiaomi 12 รุ่นนี้เน้นความเล็กพกพาได้ โดยหน้าจอ 6.28 นิ้ว AMOLED ความละเอียด FHD+ พร้อมด้วย Refresh Rate ที่ 120Hz และมีระบบสแกนนิ้วมือใต้หน้าจอ และกระจก Gorilla Glass Victus ทั้งนี้ขนาดของเครื่องจริงจากภาพหลุด เล็กกว่า iPhone 13 รุ่นปกติอีก

กล้องหลังเลือกใช้ 50 ล้านพิกเซลจาก Sony IMX766 ขนาดเซนเซอร์ 1/1.56 นิ้ว พร้อมกับพิกเซลขนาดใหญ่ถึง 2.0 μm พร้อมกับระบบกันสั่น OIS มาให้ และอีก 2 เลนส์คือ 13 ล้านพิกเซล Ultra Wide และ 5 ล้านพิกเซลแบบ Tele-Macro

เห็นบางแบบนี้ใช้ขุมพลัง Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 และมีระบบจัดการความร้อนที่ดีไม่เบา นอกจากนี้แบตเตอรี่ที่ให้มีขนาด 4500 mAh รองรับกำลังชาร์จไฟแบบสายที่ 67W และไร้สายที่ 50W พร้อมกับ Reverse Wireless Charging ที่กำลัง 10W มาพร้อมกับ MIUI 13 พื้นฐานเป็น Android 12

มีทั้งหมด 3 สีคือ ดำ, ฟ้า, ชมพู และสีเขียนเป็นแบบหนังเทียม Vegan Leather โดยมือถือรุ่นนี้มีใหเลือกทั้งหมด 3 เกรด ได้แก่รุ่น RAM 8GB / ROM 128GB ราคา 3,699 หยวน หรือประมาณ 19,800 บาท, RAM 8GB / ROM 256GB ราคา 3,999 หยวน หรือประมาณ 21,000 บาท และ RAM 12GB / ROM 256GB ราคา 4,399 หยวน หรือประมาณ 23,xxx บาท เริ่มวางจำหน่ายในจีน 31 ธันวาคม นี้

gsmarena_019

ต่อกันที่ Xiaomi 12 Pro รุ่นต่อมาที่คาดว่าจะเป็นตัวท็อปจริง หน้าจอมือถือรุ่นนี้มีขนาด 6.73 นิ้ว ความละเอียดเพิ่มเป็น 2K หน้าจอแบบ LTPO 2.0 โดยมีค่า Refresh Rate สามารถปรับได้เองตั้งแต่ 1 – 120 Hz ทั้งนี้ระบบสแกนนิ้วก็ยังอยู่ในหน้าจอเหมือนเดิมและกระจก Gorilla Glass Victus เหมือนกับ Xiaomi 12 Pro เช่นเคย แต่ความสว่างสูงกว่าถึง 1,500 nits

ความแตกต่างของกล้องรุ่นนี้คือได้ใช้ Sony IMX707 ใหม่ล่าสุด และทำงากับ 3 กล้องโดยกล้องมีทั้ง กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ 1/1.28 นิ้ว รองรับเทคโนโลยี Pixel-binning และพิกเซลรวมกันใหญ่ถึง 2.44µm + OIS ตัวที่ 2 ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล สามารถละลายหลังได้ และอีกตัวความละเอียด 50 ล้านพิกเซลเท่ากันและเป็นแบบ Ultrawide เช่นเคย

แต่มีการใส่เทคโนโลยี Cyber Focus โดยระบบนี้จะจับวัตถุ ใบหน้าของเราและพื้นหลังของเรา ทำงานได้อย่างรวดเร็วลด Noise และเพิ่มความคมชัดได้ แถมลง Noise ของภาพลงได้อีกเยอะพอสมควร ทั้งนี้แบตเตอรี่ขนาด 4600 mAh รองรับกำลังชาร์จไฟ 120W และรองรับ Wireless Charging ที่กำลัง 50W เพิ่มความปลอดภัยด้วยการติดตั้งชิป P1 ทำให้เกิดความปลอดภัยมากขึ้น

และยังได้ระบบเสียงปรับจูนโดย Harman / Kardon โดยลำโพงเป็นแบบบนและล่างเหมือนเดิม

gsmarena_021

ส่วนสีสันก็เหมือนกับ Xiaomi 12 รุ่นปกติ และมีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นทั้ง

  • RAM 8GB / ROM 128GB = 4,699 หยวน หรือประมาณ 24,xxx บาท
  • RAM 8GB / ROM 256GB = 4,999 หยวน หรือประมาณ 26,xxx บาท
  • RAM 12GB / ROM 256GB = 5,399 หยวน หรือประมาณ 28,xxx บาท

Xiaomi 12 Pro

  • RAM 8GB / 128GB ราคา 4,699 หยวน หรือประมาณ 25,xxx บาท
  • RAM 8GB / 256GB ราคา 4,999 หยวน หรือประมาณ 26,xxx บาท
  • RAM 12GB / 256GB ราคา 5,399 หยวน หรือประมาณ 29,xxx บาท

ปิดท้ายด้วย Xiaomi 12 X ตัวเล็กไม่มีอะไรมากมันคือการเอา Xiaomi 12 เปลี่ยนขุมพลังเป็น Snapdragon 870 5G พร้อมกับตัดระบบ Wireless Charging ออก และขายในราคาถูกลง เริ่มต้นที่

  • RAM 8GB / ROM 128GB = 3,199 หยวน หรือประมาณ 16,xxx บาท
  • RAM 8GB / ROM 256GB = 3,499 หยวน หรือประมาณ 18,xxx บาท
  • RAM 12GB / ROM 256GB = 3,799 หยวน หรือประมาณ 20,000 บาท

ขอขอบคุณ – Sanook

รวมโปรเน็ตดีแทคสุดแรง คลิก
facebook

#โปรเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีแทค #สมัครเน็ตดีแทค

เปิดตัว realme GT 2 Series มือถือสเปกเรือธง

เปิดตัว realme GT 2 Series มือถือสเปกเรือธง

realme ได้เปิดตัวสินค้าใหม่ในงาน MWC 2022 อย่างเป็นทางการทั้งหมด 3 ชิ้นด้วยกัน ทั้งนี้มือถือรุ่นนี้จะได้สเปกท็อปและมีดีไซน์ที่สวยงามอย่างที่เคยเปิดตัวในเมืองจีนก่อนหน้านี้

เริ่มจาก realme GT 2 Pro ตัวท็อปสุดมาพร้อมกับ เปิดตัว realme GT 2 Series มือถือเรือธง สุดที่สเปกของ realme ในปี 2022เลือกใช้จอ Samsung AMOLED พร้อมกับ แบเตอรี่และกล้องทั้งหมด 3 ตัวด้วยกัน ทั้งนี้กล่องของ realme GT 2 Pro มีการใช้ Bio Polymer เป็นวัสดุที่ลดการเกิดคาร์บอน ทำให้ดูรักษ์โลกมากขึ้น

โดยรุ่นนี้มี RAM 8 / 12GB ความจำแบบ UFS 3.1 ให้เลือกทั้ง 128 / 256GB และยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี Vapor Chamber ที่ลดความร้อนได้ถึง 3 องศา

gt2_5

ส่วนกล้องนั้น realme GT 2 Pro เลือกใช้ Sony IMX766 ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/1.8 ขนาดเซนเซอร์ 1/1.56 และยังได้ omni-directional PDAF และ OIS มาในตัว ทั้งนี้กล้องหลังมุมกว้างได้ความกว้าง 150 องศา และความละเอียด 50 ล้านพิกเซล และมี Micro Lens เข้าใกล้ได้ 40 เท่าและมีความละเอียด 3 ล้านพิกเซล  พร้อมกับกล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล

realme GT2 Pro นั้นยังมีหน้าจอ 6.7 นิ้วเป็นรุ่น Samsung E4 AMOLED LTPO 2.0 ซึ่งเรียกได้ว่าละเอียดมากและมีขนาด 1440×3216 พิกเซล ให้สีมากถึง 1.07 ล้านสีความสว่าง 1400 nits ซึ่งเป็นหน้าจอใกล้เคียงกับ S22 Ultra ของ Samsung ให้แบตเตอรี่ขนาด 5000 mAh และชาร์จไฟด้วยกำลัง 65W ชาร์จไฟให้เต็มภายใน 33 นาที (จาก 0 – 100%)

realme GT 2

มาถึง realme GT 2 รุ่นเล็กกันบ้างครัง โดยมือถือรุ่นนี้จะมาพร้อมกับขุมพลัง Snapdragon 888 พร้อมกับหน้าจอ 6.62 ความละเอียด Full HD AMOLED และมี Refresh Rate สูงสุด 120 Hz ให้แบตเตอรี่ขนาด 5000 mAh, Fast Charging 65W ใข้เซนเซอร์ Sony IMX766 เท่ากันและรวมไปถึงกล้องมุมกว้างและ Microscope ใช้ตัวเดียวกับ GT 2 Pro

ทั้งคู่จะมาพร้อมกับ Android 12 และ realme UI 3.0 การันตีอัปเดตได้ยาวถึง 3 ปีและ 4 ปีสำหรับ Security Patch โดยราคานั้นมีดังนี้

gt2_1
  • realme GT2 Pro 8 / 128GB = ราคา Pre-Order 649 ยูโร = 23,xxx บาท | ราคาจริง = 749 ยูโร หรือประมาณ 27,xxx บาท
  • realme GT2 Pro 12 / 256GB = ราคา Pre-Order = 749 ยูโร = 27,xxx บาท | ราคาจริง = 849 ยูโร หรือประมาณ 31,xxx บาท
  • realme GT2 8 / 128GB = ราคา Pre-Order อยู่ที่ 449 ยูโร หรือประมาณ 16,xxx บาท
  • realme GT2 12 / 256GB = ราคา 599 ยูโร หรือประมาณ 21,xxx บาท

ขอขอบคุณ – Sanook



รวมโปรเน็ตดีแทคสุดแรง คลิก
facebook

#โปรเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีแทค #สมัครเน็ตดีแทค

Huawei เปิดตัว Matebook X Pro 2022 และ Matebook E 2 in 1 อย่างเป็นทางการ

Huawei เปิดตัว Matebook X Pro 2022 และ Matebook E 2 in 1 อย่างเป็นทางการ

Huawei ได้มีการเปิดตัวอุปกรณ์รุ่นใหม่ในงาน MWC โดยเน้นเรื่องของคอมพิวเตอร์สำหรับการทำงานที่โดดเด่น มาพร้อมกับ Windows 11 ใหม่ล่าสุด สำหรับกลุ่มแรกที่นำเสนอจะเป็น Notebook และ Tablet

Huawei Matebook X Pro 2022

โดยคอมพิวเตอร์รุ่นนี้ที่เปิดตัวจะมีหน้าจอขนาด 14.2 นิ้ว แบบ IPS LCD ความละเอียด 3120 x 2080 พิกเซล พร้อมกับ Refresh Rate 90Hz อัตราส่วน 3:2 พร้อมกับความสว่างสูงสุด 500 nits และมีค่า DCI-P3 เรียกได้ว่าหน้าจอสวนระดับต้นๆ และยังได้ webcam ขนาด 6 มิลลิเมตร อยู่ตรงส่วนขอบ

น้ำหนักของเครื่อง 1.38 กิโลกรัมและมีความบางที่ 15.5 มิลลิเมตร ให้ลำโพงทั้งหมด 6 ตัว มาพร้อมกับขุมพลัง Intel 11th Generation Rocket Lake ติดตั้ง Intel Iris Xe เป็นการ์ดจอในตัว ได้ RAM 16GB LPDDR4x ความจำ SSD M2 ขนาด 1TB และมีระบบระบายความร้อน Dual Shark fin และมี VC ช่วยในการระบายความร้อน และมี USB-C ทั้งหมด 4 ช่อง รองรับระบบชาร์จไฟ 90W ติดตั้งลำโพงถึง 6 ตัวด้วยกัน โดยมีราคาอยู่ราคา 1,899 ยูโร หรือประมาณ 69,xxx บาท

Huawei MateBook E 2 in 1

matee

หากคุณมองหาคอมพิวเตอร์แบบ 2 in 1 อยู่ Huawei ก็มีการเปิดตัว Matebook E รุ่นฃล่าสุดออกมา โดยมีขนาดหน้าจอ 12.6 นิ้ว OLED ความละเอียด 2560×1600 พิกเซล พร้อมกับกล้อง 8 ล้านพิกเซล และกล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล พร้อมกับความบางเพียง 7.9 มิลลิเมตร น้ำหนัก 709 กรัมและบอดี้เป็น แมกนีเซียมอัลลอย

ขุมพลังก็ยังคงเป็น Intel 11th Generation มีให้เลือกทั้ง i5 และ i7 พร้อมกับ Intel Iris Xe มาพร้อมกับ RAM 8 / 16GB แบบ LPDDR5x พร้อมกับความจำ PCIe NVMe ขนาด 256 / 512GB รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6, Bluetooth 5.1 ให้แบตเตอรี่ขนาด 42Wh พร้อมกับชาร์จไฟได้สูงสุด 65W และมีการติดตั้งไมโครโฟน 4 ตัว, ลำโพง 4 ตัว รองรับ Huawei Pencil เช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ Huawei Matebook E 2 in 1 จะมีราคาเริ่มต้น 649 ยูโร หรือประมาณ 23,xxx บาท ไปจนถึง 51,xxx บาท ที่จะมาครบทุกทุกอย่างกับสเปก Intel Core i7

ขอขอบคุณ – Sanook



รวมโปรเน็ตดีแทคสุดแรง คลิก
facebook

#โปรเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีแทค #สมัครเน็ตดีแทค

เผย ค้นพบมัลแวรร์สุดโหดในระบบแอนดรอยด์ ขโมยข้อมูลเสร็จ ลบข้อมูลทั้งเครื่องออกทันที

เผย ค้นพบมัลแวรร์สุดโหดในระบบแอนดรอยด์ ขโมยข้อมูลเสร็จ ลบข้อมูลทั้งเครื่องออกทันที

ย้อนกลับไปในเดือนมกราคม ปี ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก Kaspersky  ได้ค้นพบมัลแวร์ BRATA แพร่ระบาดบน Google Play และในตอนนี้ มัลแวร์ตัวดังกล่าวก็กลับมาอีกครั้งพร้อมกับความอันตรายที่ร้ายแรงยิ่งกว่าเดิม

มัลแวร์ตัวนี้ถูกตั้งชื่อขึ้นโดยมีที่มาจากรูปแบบของมัลแวร์โดยเป็นมัลแวร์ที่ระบาดในประเทศบราซิล (Brazil), เป็นโทรจันโจมตีจากระยะไกล (Remote access trojan (RAT)) และอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android มันจึงถูกเรียกว่า “Brata”

การกลับมาของ Brata ในครั้งนี้ มีการขยายวงโจมตีออกไปกว้างขึ้นกว่าเก่า จากเดิมที่เน้นโจมตีผู้ใช้งานระบบปฏิบัติการ Android ที่อาศัยอยู่ในประเทศบราซิล แต่ตอนนี้ขอบเขตการโจมตีได้กระจายไปยังประเทศอิตาลี, ประเทศลาตินอเมริกา, ประเทศโปแลนด์ และประเทศอังกฤษด้วย โดยพบร่องรอยการโจมตีเป็นครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) และมีการโจมตีซ้ำอีกครั้งในช่วงกลางเดือนธันวาคม ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) โดยนักวิจัยพบข้อสังเกตว่าในการโจมตีครั้งที่สองนั้น แฮกเกอร์ได้ปล่อย Brata เวอร์ชันใหม่ ไปยังประเทศอื่น ๆ เพิ่มขึ้น

ทางนักวิจัยด้านความปลอดภัยพบว่า มัลแวร์ Brata ที่ระบาดระลอกใหม่ มีอย่างน้อยถึง 3 เวอร์ชัน ความสามารถในการโจมตีก็มีความอันตรายมากกว่าเก่า จากเดิมที่ทำได้แค่เพียงขโมยข้อมูลส่วนตัว และธุรกรรมทางการเงินของผู้ใช้ แฮกเกอร์ได้ปรับให้ตามหาตำแหน่งอุปกรณ์ของเหยื่อผ่าน GPS, เพิ่มเทคนิค Novel obfuscation และสามารถล้างข้อมูลทั้งหมดภายในเครื่องของเหยื่อหลังจากที่จารกรรมข้อมูลเสร็จสิ้น เพื่อทำให้เหยื่อต้องเสียเวลากู้ข้อมูล และไม่รู้ตัวว่าตัวเองได้ตกเป็นเหยื่อของแฮกเกอร์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ในส่วนของช่องทางการแพร่ระบาด ในรายงานระบุเอาไว้ว่า นอกเหนือไปจากการซ่อนตัวภายในแอปพลิเคชันบน Play Store และเว็บไซต์ที่แจกจ่าย .APK แล้ว ยังมีการใช้ระบบแจ้งเตือนของเว็บไซต์, ลิงก์โฆษณา บน Google, SMS และ WhatsApp ด้วย โดยจะเป็นข้อความหลอกให้ผู้ใช้เชื่อว่าแอปพลิเคชันต้องได้รับการอัปเดต หากเหยื่อหลงเชื่อคลิกอัปเดตไป มัลแวร์ Brata ก็จะเริ่มติดตั้งตัวเองลงในสมาร์ทโฟนของเหยื่อทันที

BRATA มัลแวร์แอนดรอยด์สุดโหด ขโมยข้อมูลเสร็จ ลบข้อมูลทั้งหมดในเครื่องเพื่อหลบหนีทันที
ภาพจาก https://securelist.com/spying-android-rat-from-brazil-brata/92775/

ขอขอบคุณ – Thaiware




รวมโปรเน็ตดีแทคสุดแรง คลิก
facebook

#โปรเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีแทค #สมัครเน็ตดีแทค

Facebook Reels เปิดให้ใช้ได้แล้ววันนี้ทั่วโลก

Facebook Reels เปิดให้ใช้ได้แล้ววันนี้ทั่วโลก

Meta (หรือ Facebook) เปิดตัวแพลตฟอร์ม Reels ฟีเจอร์ที่คล้าย TikTok เพิ่มเติมบน Facebook ในอีกหลากหลายประเทศ 150 ประเทศทั่วโลก หลังจากเปิดให้ทดสอบลองใช้งานในสหรัฐอเมริกาไปเมื่อช่วงปีที่ผ่านมา โดยประเทศไทยสามารถใช้งานฟีเจอร์ใหม่นี้ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แท็บเข้าใช้งานอยู่หน้า News Feed ใกล้ๆ Stories และ Rooms

รอบนี้ Meta ได้เพิ่มฟีเจอร์การปรับแต่งวิดีโอใหม่ๆ เข้ามาให้กับ Facebook Reels ให้มีความสามารถทัดเทียมกับ Instagram Reels ที่เปิดตัวใช้งานไปแล้วในก่อนหน้านี้ ทั้งการ Duet กับ Creator คนอื่นๆ (เหมือนใน TikTok), อัปโหลดคลิปความยาว 60 วินาที หรือการบันทึกฉบับร่างวิดีโอเอาไว้ก่อนจะกดเผยแพร่

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังระบุอีกว่า ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า พวกเขาจะเพิ่มฟีเจอร์ตัดต่อคลิปสั้นเข้ามาใน Facebook Reels เพื่อทำให้ครีเอเตอร์มีความสะดวกสบายในการเผยแพร่วิดีโอแบบ long-form (เหมือน YouTube) และพวกไลฟสตรีมต่างๆ

อีกทั้ง Meta ยังได้เพิ่มฟีเจอร์แปะโฆษณาใน Facebook Reels อีกด้วย มีสองฟอร์แมต ได้แก่ โฆษณาแบนเนอร์แบบกึ่งโปร่งใสที่จะวางไว้บนด้านล่างของตัว Facebook Reels และสติกเกอร์โฆษณาที่ครีเอเตอร์สามารถวางไว้ที่ไหนก็ได้ในคลิป Reels ของพวกเขา

แถม Meta ยังเตรียมอนุญาตให้ครีเอเตอร์ในเกือบทุกประเทศที่สามารถใส่โฆษณาในสตรีมได้ เข้าร่วมโปรแกรม Ad-Placement และเปิดฟีเจอร์ให้ดาวกับครีเอเตอร์นั้นๆ อีกด้วย

โดย Meta เปิดเผยว่า ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ยูเซอร์จะสามารถแชร์ Reels ได้ในหลากหลายที่ใน Facebook มากยิ่งขึ้น อาทิ Stories หรือบนแท็บ Facebook Watch

ขอขอบคุณ – droidsans




รวมโปรเน็ตดีแทคสุดแรง คลิก
facebook

#โปรเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีแทค #สมัครเน็ตดีแทค