เปิดตัว Xiaomi 12 Series สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุด

เปิดตัว Xiaomi 12 Series สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุด

เสียวหมี่ประกาศเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุด Xiaomi 12 Series ทั่วโลก พร้อมให้ลูกค้าชาวไทยเลือกเป็นเจ้าของ 2 รุ่น ได้แก่ Xiaomi 12 Pro และ Xiaomi 12

xiaomi12series_7

Master every scene ไปกับ Xiaomi 12 Series

สมาร์ทโฟนเรือธงถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้ทั่วโลกเหมือนมีสตูดิโอถ่ายวิดีโอส่วนตัวพกติดตัวไปด้วย และยังเป็นแหล่งความบันเทิงที่ทันสมัยอีกด้วย Xiaomi 12 Series มาพร้อมความล้ำหน้าด้านการประมวลผล AI อัลกอริทึมที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของเสียวหมี่ ขุมพลังการประมวลผลระดับเรือธง และการยกระดับประสบการณ์การใช้งานรอบด้าน

เก็บภาพระดับภาพยนตร์ได้ทุกเมื่อ

Xiaomi 12 Series ช่วยให้ผู้ใช้สามารถบันทึกภาพคุณภาพระดับสตูดิโอได้ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตามไม่ว่าจะเป็นสภาพแสงที่ท้าทายหรือแม้แต่วัตถุที่กำลังเคลื่อนที่ โทรศัพท์ทั้งสองรุ่นมีกล้องสามตัวระดับโปรที่สามารถถ่ายภาพได้อย่างหลากหลาย ประกอบไปด้วยกล้องมุมกว้าง 50 ล้านพิกเซลพร้อมความสามารถในการบันทึกภาพ 8K ทั้งบน Xiaomi 12 Pro และ Xiaomi 12

xiaomi-12-1

Xiaomi 12 Pro มาพร้อมความโดดเด่นของแผงกล้อง 50 ล้านพิกเซลที่ล้ำสมัยซึ่งมีเซ็นเซอร์หลักขนาดใหญ่พิเศษจาก Sony IMX707 เซ็นเซอร์นี้สามารถรวบรวมแสงได้ในปริมาณมากขึ้นซึ่งจะช่วยเสริมความสามารถในการผลิตภาพคุณภาพสูงด้วยความเร็วโฟกัสที่เร็วขึ้นและความแม่นยำของสีที่เพิ่มขึ้น

ในขณะที่ Xiaomi 12 มาพร้อมกล้องอัลตร้าไวด์ 13 ล้านพิกเซลและกล้องเทเลมาโคร 5 ล้านพิกเซล สำหรับการถ่ายภาพต่างๆ ในมุมมองที่แตกต่างออกไป

นอกเหนือจากฮาร์ดแวร์ที่น่าประทับใจแล้ว Xiaomi 12 Pro และ Xiaomi 12 ยังพัฒนา AI อัลกอริทึมที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะตัวของเสียวหมี่อีกด้วย นวัตกรรมเหล่านี้ทำให้ผู้ใช้งานสามารถบันทึกทุกช่วงเวลาตามต้องการได้ง่ายกว่าที่เคย แม้ในที่ที่มีแสงน้อยหรือจะเป็นวัตถุที่เคลื่อนไหว Xiaomi ProFocus สามารถระบุและติดตามวัตถุได้อย่างชาญฉลาด

รวมไปถึงป้องกันภาพเบลอหรือภาพที่ไม่โฟกัสของวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่อยู่หรือถูกบดบัง ความล้ำหน้านี้ยังรวมไปถึงความสามารถในการโฟกัสอัตโนมัติที่ดวงตาและใบหน้าอีกด้วย ในขณะที่ Ultra Night Video นั้นก็ใช้อัลกอริทึมที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของเสียวหมี่ในการบันทึกวิดีโอได้แม้ในสภาวะแสงน้อยมาก AI Cinema แบบคลิกเดียว (One-click AI Cinema) มีตัวเลือกสร้างสรรค์มากมายสำหรับการตัดต่อวิดีโอ อาทิโหมด Parallel World, Freeze Frame Video และโหมด Magic Zoom

การประมวลผลระดับเรือธงกับประสิทธิภาพที่ไม่เคยมีมาก่อนพร้อมการประหยัดพลังงาน

ประสบการณ์ระดับเรือธงนั้นต้องอาศัยประสิทธิภาพระดับเรือธงเช่นกัน Xiaomi 12 Pro และ Xiaomi 12 ใช้โปรเซสเซอร์ Snapdragon® 8 Gen 1 สร้างขึ้นบนกระบวนการประมวลผล 4nm โปรเซสเซอร์นี้ช่วยเพิ่มความสามารถในการแสดงผลกราฟิก GPU ได้มากขึ้นถึง 30% และประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงาน 25% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า สมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับ UFS 3.1 ที่ให้ความเร็วในการโหลดและถ่ายโอนข้อมูลอันยอดเยี่ยม พร้อมด้วย LPDDR5 RAM เพื่อเพิ่มความเร็วของหน่วยความจำสูงถึง 6,400Mbps

xiaomi12
xiaomi12pro

เพื่อประสบการณ์การใช้งานผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด Xiaomi 12 Series มาพร้อมระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพสูง เสริมด้วยช่องระบายไอน้ำขนาดใหญ่พิเศษและกราไฟท์หลายชั้นเพื่อระบบระบายความร้อนได้อย่างยอดเยี่ยม

ยกระดับประสบการณ์ความบันเทิงรอบด้าน

สมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นให้การรับชมที่คมชัดบนหน้าจอ AMOLED Dot Display ที่ได้รับคะแนน A+ จากการจาก DisplayMate ทั้งยังรองรับ TrueColor และเพื่อให้ผู้ใช้งานสบายใจมากยิ่งขึ้นหน้าจอแสดงผลมาพร้อม Corning® Gorilla® Glass Victus® ที่กันรอยขีดข่วนและยังรองรับ Dolby Vision® นอกจากนี้ Xiaomi 12 Series ยังรองรับ HDR 10+ อีกด้วย Xiaomi 12 Pro นั้นได้รับการรับรองการถนอมสายตาจาก SGS Eye Care Display ซึ่งแสดงให้เห็นความใส่ใจในการดูแลสายตาของผู้ใช้ในระยะยาวในขณะที่คุณใช้งานอย่างต่อเนื่องและยาวนาน

untitled-3

ในขณะเดียวกัน Xiaomi 12 Pro ได้กำหนดนิยามใหม่ของหน้าจอแสดงผลหลัก ไม่ว่าคุณจะเลื่อนดู เลื่อนขึ้นลง หรือปัดไปในทิศทางต่างๆ ก็ลื่นไหลอย่างไม่น่าเชื่อ มาพร้อมหน้าจอแสดงผลขนาด 6.73 นิ้ว WQHD+ ที่ประหยัดพลังงานสูงซึ่งส่งผลมาจากการใช้ AdaptiveSync Pro ในการปรับการแสดงผล LTPO แบบไดนามิกอย่างชาญฉลาดระหว่าง 1Hz ถึง 120Hz ปรับเปลี่ยนไปตามเนื้อหาที่ใช้งาน

ปัจจุบัน Xiaomi 12 มาพร้อมหน้าจอสมาร์ทโฟนที่มีสีสันที่สุดของเสียวหมี่ ด้วยสีที่มีมากกว่า 68 พันล้านสีบนจอแสดงผลแบบ full-HD+ ขนาด 6.28 นิ้ว และยังมี AdaptiveSync 120Hz เพื่อหน้าจอแสดงผลที่มีความละเอียดสูง สีสันสดใส

Xiaomi 12 Series มาพร้อม SOUND BY Harmon Kardon ที่สร้างประสบการณ์เสียงที่สมจริงที่ขับเคลื่อนโดย Dolby Atmos® ให้เสียงรอบทิศทางพร้อมรายละเอียดที่สมบูรณ์ คมชัด Xiaomi 12 Pro มาพร้อมลำโพงสี่ตัวประกอบไปด้วย ลำโพงทวีตเตอร์สองตัวและลำโพงวูฟเฟอร์สองตัว ให้รายละเอียดที่ชัดเจนและครอบคลุมช่วงเสียงอย่างน่าอัศจรรย์ ในขณะที่ Xiaomi 12 ให้เสียงสเตอริโอที่สมดุลซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเล่นเกมหรือวิดีโอที่สมจริง

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพประสบการณ์ผู้ใช้งานอย่างสมบูรณ์แบบขึ้นไปอีก Xiaomi 12 Series ได้ใช้ระบบปฏิบัติการ MIUI 13 ซึ่งเปิดตัวทั่วโลกเมื่อต้นปีนี้ การอัปเดตนี้นั้นหมายถึงการมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่เร็วขึ้น ระบบประมวลผลพื้นหลังที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น การประมวลผลที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานมากขึ้น ฟีเจอร์ใหม่ของการอัปเกรดครั้งนี้ ได้แก่ Liquid Storage, Atomized Memory, Focused Algorithms และ Smart Balance ที่เป็นกรรมสิทธิ์เฉพาะของเสียวหมี่

การชาร์จแห่งอนาคต

Xiaomi 12 Pro มาพร้อม Xiaomi HyperCharge 120W ที่เร็วอย่างเหลือเชื่อ ด้วยแบตเตอรี่ขนาด 4,600mAh ที่ชาร์จเต็มในเวลาเพียง 18 นาทีโดยใช้โหมด Boost Xiaomi 12 Pro มอบความสามารถในการชาร์จสุดล้ำที่ตอบสนองทุกความต้องการของผู้ใช้งาน2

ในขณะที่ Xiaomi 12 นั้นใช้แบตเตอรี่ขนาด 4,500mAh ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้เข้ากับตัวเครื่องที่กะทัดรัด รองรับการชาร์จเทอร์โบแบบมีสาย 67W เพื่อการชาร์จที่รวดเร็ว นอกจากนี้ Xiaomi 12 Pro และ Xiaomi 12 ยังรองรับการชาร์จแบบไร้สาย 50W และการชาร์จแบบย้อนกลับ 10W อีกด้วย

Xiaomi 12 Pro และ Xiaomi 12 นั้นต่างก็ใช้ข้อได้เปรียบจาก Xiaomi AdaptiveCharge ซึ่งเป็นอัลกอริทึมการชาร์จอัจฉริยะที่เรียนรู้และปรับเปลี่ยนให้เข้ากับพฤติกรรมการชาร์จ ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่

ความสามารถระดับเรือธงที่อัดแน่นมาในดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์

สตูดิโอขนาดพกพานี้นั้นรับกับฝ่ามือของคุณอย่างลงตัวเป็นที่สุดด้วยการออกแบบที่โดดเด่นและคำนึงถึงผู้ใช้งานเป็นหลัก Xiaomi 12 Series มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุสูงที่บางกว่าและช่องว่างระหว่างสันที่แคบลงช่วยให้ประหยัดพื้นที่อันมีค่าภายในอุปกรณ์ หน้าจอแสดงผลขนาด 6.73 นิ้วของ Xiaomi 12 Pro ถูกห่อหุ้มด้วยกรอบตรงกลางอันโฉบเฉี่ยวด้วยความโค้งมนแบบ 3 มิติสุดหรู

ในขณะเดียวกันหน้าจอแสดงผล 6.28 นิ้วของ Xiaomi 12 นั้นกว้างเพียง 69.9 มม. และออกแบบตัวเครื่องให้มีความโค้งมนที่เรียบลื่นเพื่อความพอดีที่สมบูรณ์แบบ3 ทั้ง 2 อุปกรณ์มีสามสีสวยให้เลือก ได้แก่ เทา ม่วง และน้ำเงิน

xiaomi12series_saleinfo

ราคาและการจัดจำหน่ายในประเทศไทยของ Xiaomi 12 Series

Xiaomi 12 Series วางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในวันที่ 2 เมษายน 2565

  • Xiaomi 12 Pro รุ่นความจุ 12GB+256GB วางจำหน่ายในราคา 31,990 บาท ณ Xiaomi Store ทุกสาขาและร้านค้าที่ร่วมรายการ รวมถึงช่องทางร้านค้าออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม
  • Xiaomi 12 รุ่นความจุ 12GB+256GB วางจำหน่ายในราคา 26,990 บาท บนช่องทางออนไลน์แพลตฟอร์ม ที่ JD Central, Lazada และ Shopee
  • Xiaomi 12 รุ่นความจุ 8GB+256GB วางจำหน่ายในราคา 24,990 บาท ณ Xiaomi Store ทุกสาขาและร้านค้าที่ร่วมรายการ รวมถึงช่องทางร้านค้าออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม

สำหรับลูกค้าที่สั่งจองผ่านผู้ให้บริการเครือข่าย รับสิทธิ์ซื้อสินค้าในราคาพิเศษ* โดย Xiaomi 12 Pro ราคาเริ่มต้นเพียง 17,490 บาท และ Xiaomi 12 ราคาเริ่มต้นเพียง 12,990 บาท (หมายเหตุ* ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับราคาพิเศษได้ที่ร้านค้าผู้ให้บริการเครือข่าย)

พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่สั่งจอง Xiaomi 12 Pro หรือ Xiaomi 12 ในระหว่างวันที่ 16-27 มีนาคม 2565 รับฟรี** นาฬิกาอัจฉริยะ Xiaomi Watch S1 Active มูลค่า 4,990 บาท

(หมายเหตุ** สำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าผ่านช่องทางผู้ให้บริการเครือข่ายที่เลือกรับสิทธิ์ซื้อสินค้าในราคาพิเศษจากผู้ให้บริการเครือข่าย จะไม่ได้รับนาฬิกาอัจฉริยะ Xiaomi Watch S1 Active ลูกค้าต้องเลือกรับสิทธิ์เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง และสำหรับลูกค้าที่ซื้อ Xiaomi 12 รุ่นความจุ 8GB+256GB ผ่านช่องทางออนไลน์ JD Central หรือ Lazada หรือ Shopee ลูกค้าสามารถเลือกรับนาฬิกาอัจฉริยะ Xiaomi Watch S1 Active หรือ เลือกอัพเกรดเป็นรุ่นความจุ 12GB+256GB ฟรี! อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น)

xiaomi12series_6

นอกจากนี้! เสียวหมี่ยังมอบเซอร์ไพรส์ให้แก่ลูกค้ากลุ่มแรกที่สั่งจอง Xiaomi 12 Pro หรือ Xiaomi 12 และร่วมกิจกรรมตามที่กำหนดโดยลูกค้ามีสิทธิ์รับ Mi TV P1 55” มูลค่า 15,990 บาท

  • โอกาสที่ 1 วันที่ 16 มีนาคม ตั้งแต่เวลา 00 น. จำนวนรวม 100 สิทธิ์ สำหรับลูกค้าที่สั่งจองผ่านระบบออนไลน์ของ BaNANA Online, Jaymart Online, TG FONE Online, CSC / IT City Online, Lazada, Shopee หรือ JD Central
  • โอกาสที่ 2 วันที่ 16 มีนาคม ตั้งแต่เวลา 00 น. จำนวนรวม 60 สิทธิ์ สำหรับลูกค้าที่สั่งจองผ่านระบบออนไลน์ของผู้ให้บริการเครือข่าย AIS, dtac หรือ True (โดยสงวนสิทธิ์ให้เฉพาะลูกค้า AIS Serenade, True Black Card หรือ dtac Blue Member)
  • โอกาสที่ 3 วันที่ 19 มีนาคม ตั้งแต่เวลา 00 น. จำนวนรวม 100 สิทธิ์ สำหรับลูกค้าที่สั่งจองสินค้าและร่วมกิจกรรมพิเศษที่ Xiaomi Store สาขา Fashion Island ชั้น 3 หรือ Xiaomi Store สาขา Central World ชั้น 4
  • โอกาสที่ 4 วันที่ 2 เมษายน ตั้งแต่เวลา 00 น. จำนวนรวม 100 สิทธิ์ สำหรับลูกค้าที่จองสินค้าผ่านช่องทาง BaNANA IT, Jaymart, TG FONE, CSC / IT City หรือ Xiaomi Store by Wiratmalee และร่วมกิจกรรมพิเศษที่ศูนย์การค้า Siam Paragon

ทั้งนี้นอกจากโปรโมชันสุดพิเศษมากมายแล้ว Xiaomi 12 series ยังได้รับเกียรติจาก National Geographic ในการจับมือกันร่วมรังสรรค์แคมเปญสุดพิเศษในระดับภูมิภาคโดยจะมีช่างภาพที่มีประสบการณ์ในประเทศไทยถ่ายทอดเรื่องราวผ่านภาพถ่ายและวิดีโอภายใต้หัวข้อ ‘วัฒนธรรมชุมชนทางทะเลของประเทศไทย’ ถ่ายทอดผ่าน Xiaomi 12 Pro เพื่อให้ภาพถ่ายและวิดีโอระดับภาพยนตร์ให้ออกมาอย่างสมจริงที่สุด และยังจับมือกับนักร้องนักแต่งเพลงชื่อดังอย่างคุณ แสตมป์ อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข มาแต่งเพลงให้กับ MV สุดพิเศษพิเศษเฉพาะของ Xiaomi 12 series ที่พร้อมจะให้ทุกท่านรับฟังกันเร็วๆ นี้อีกด้วย

xiaomi-12-2

ชีวิตสมาร์ทขึ้นแบบง่ายๆด้วยสินค้า AIoT รุ่นใหม่

นาฬิกาอัจฉริยะ Xiaomi Watch S1 และ Xiaomi Watch S1 Active

xiaomiwatchs1series_salei

Xiaomi Watch S1 และ Xiaomi Watch S1 Active ซึ่งมาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ AMOLED 1.43 นิ้ว มีโหมดออกกำลังกายให้คุณเลือกมากถึง 117 โหมด สามารถเลือกลวดลายบนหน้าปัดได้มากกว่า 200 รูปแบบ ใช้งานได้ยาวนานถึง 12 วัน

Xiaomi Watch S1 มาพร้อมการการออกแบบที่แสนคลาสสิกและประณีตโดยใช้วัสดุกระจกแซฟไฟร์ กรอบแสตนเลสและสายหนังสุดหรู มีสองสีสวยให้เลือก ได้แก่ สีน้ำตาลและสีดำ จำหน่ายในราคา 6,490 บาท ในขณะที่ Xiaomi Watch S1 Active มีสามสีสวยให้เลือก ได้แก่ Moon White, Black Space และ Ocean Blue จำหน่ายในราคา 4,990 บาท นาฬิกาทั้งสองรุ่นจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 16 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป

หูฟังไร้สาย Xiaomi Buds 3T Pro และ Xiaomi Buds 3

xiaomibuds3series_saleinf

หูฟัง Xiaomi Buds 3T Pro และ Xiaomi Buds 3 มาพร้อมจุดเด่นในการตัดเสียงรบกวนชั้นนําระดับโลกแบบ Adaptive ตัดเสียงรบกวนสูงสุด 40dB และมอบคุณภาพเสียงระดับพรีเมียม Xiaomi Buds 3T Pro มาพร้อมระบบเสียง Luxury Dynamic Driver แม่เหล็กคู่ 10 มม. เคลือบด้วยไดอะแฟรม DLC ออกแบบให้มีคุณภาพเสียงระดับสตูดิโอและรองรับ LHDC 4.0 codec ช่วยให้คุณสัมผัสกับคุณภาพเสียงที่ดีขึ้นพร้อมรายละเอียดที่มากขึ้น

ในขณะที่ หูฟัง Xiaomi Buds 3 ใช้ Dual-magnetic Dynamic Driver ความถี่กว้าง 3 แบนด์ให้คุณสัมผัสลึกถึงรายละเอียดของเสียง หูฟังทั้งสองถูกออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ของโครงสร้างใบหูชั้นนอกเพื่อความสบาย พอดี และสวมใส่ได้อย่างปลอดภัย มีให้เลือกสองสีได้แก่ Carbon Black และ Gloss White สำหรับ Xiaomi Buds 3T Pro จะวางจำหน่ายในราคา 3,999 บาท และ Xiaomi Buds 3 จะวางจำหน่ายในราคา 2,999 บาท จะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 16 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป

ขอขอบคุณ – Sanook
.
.
.

รวมโปรเน็ตดีแทคสุดแรง คลิก
facebook

#โปรเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีแทค #สมัครเน็ตดีแท

Apple เริ่มวางจำหน่าย iPhone 12 และ iPhone 12 Pro ในแบบ refurbished แล้ววันนี้

Apple เริ่มวางจำหน่าย iPhone 12 และ iPhone 12 Pro ในแบบ refurbished แล้ววันนี้

Apple ได้มีการประกาศรับรองและขาย iPhone 12 และ iPhone 12 Pro ในรูปบแบของ Refurbished แล้วผ่านทาง Certified Refurbished store แล้วอย่างเป็นทางการ

re1

โดยมือถือที่ผ่านทาง Refurbished จะมีการเปลี่ยนแปลงแบตเตอรี่ใหม่และปรับปรุงแก้ปัญหาของเครื่องและมีการรัปบระกัน 1 ปี แต่ไม่สามารถขอคืนได้ และคุณจะไม่ได้กล่องเครื่องเหมือนกับการซื้อเครื่องใหม่ โดยเมื่อเทียบกับเครื่องหใม่แล้ว iPhone 12 และ iPhone 12 Pro จะประหยัดกว่าเครื่องใหม่ราวๆ 110 – 180 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือ 3,6xx – 6,0xx บาท

สำหรับ iPhone ในแบบ refurbished หรือเครื่องที่ผ่านการซ่อมแซมและแก้ปัญหา หรือเครื่องทดแทน มักจะเริ่มมีการวางจำหน่ายหลังจากมือถือรุ่นใหม่ออกมาสักพักหนึ่งแล้วนั่นเอง

ขอขอบคุณ – Sanook
.
.
.

รวมโปรเน็ตดีแทคสุดแรง คลิก
facebook

#โปรเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีแทค #สมัครเน็ตดีแท

เปิดตัว realme 9 5G SE หน้าจอ refresh Rate 144Hz พร้อมกับ Snapdragon 778G

เปิดตัว realme 9 5G SE หน้าจอ refresh Rate 144Hz พร้อมกับ Snapdragon 778G

realme 9 5G SE ซึ่งย่อมาจาก Speed Edition โดยมือถือรุ่นนี้มาพร้อมกับขุมพลังของ Snapdragon 778G โดยมาพร้อมกับขุมพลังที่แรงกว่า Snapdragon 695 พร้อมกับ GPU อยู่ที่ 642L และมี RAM 6 / 8GB โดยมี LPDDR4x และมีความจำภายใน 128GB ในความจำแบบ microSD ส่วนสีสันให้เลือกที่ Starry Glow  Azure Glow

ทางด้านของหน้าจอยังมีขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (2412 x 1080 พิกเซล) รองรับ Refresh Rate 144Hz และยังสามารถปรับระดับได้ ให้แบตเตอรี่ขนาด 5000 mAh รองรับการชาร์จไฟ 30W

9_se_5

ทางด้านกล้องติดตั้งมาให้ทั้งหมด 4 ตัวทั้งความละเอียด 48 ล้านพิกเซล, มุมกว้างและ Depth, Macro พร้อมกับรองรับการอัดวิดีโอ 4K 30 FPS และยังมาพร้อมกับ Wi-Fi 6, Bluetooth 5.2 ใหม่ล่าสุด โดยราคาเปิดแล้วในอินเดียและยุโรปโดยมีราคาดังนี้

  • RAM 6/128GB = 19,999 รูปี หรือ 8,6xx บาท
  • RAM 8/128GB = 22,999 รูปี หรือ 9,990 บาท
9_3

realme 9 5G คืออีกรุ่นที่เปิดตัวเช่นเดียวกัน โดยลดขนาดหน้าจอเหลือที่ 6.5 นิ้วพร้อมกับ Refresh Rate 90Hz ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล พร้อมกับอัตราส่วน 20:9 พร้อมกับความสว่างอยู่ที่ 600 Nits และ Touch Sampling Rate อยู่ที่ 180 Hz

ขุมพลังรุ่นนี้เลือกใช้ MediaTek Dimensity 810 ขนาด 6 นาโนเมตร และมีการรองรับ Modem 5G รองรับความจำขนาด 64 / 128GB แบบ UFS 2.1 และ RAM ขนาด 4 / 6GB มาพร้อมกับ microSD รองรับระบบปฏิบัติการ Realme UI 2.0 พร้อมกับ Android 11 เช่นเคย ถาดใส่ซิมเป็นแบบ Triple Slot

9_4

ส่วนกลองนั้นด้านหลังมีความละเอียด 48 ล้านพิกเซล และมีเลนส์ Depth Sensor, Macro อย่างละ 2 ล้านพิกเซล พร้อมกับถ่ายวิดีโอ 4K กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล  ให้แบตเตอรี่ขนาด 5000 mAh รองรับการชาร์จไฟ 18W รองรับ Wi-Fi 5 / Bluetooth 5.1

ส่วนราคานั้นจะอยู่ที่

  • RAM 4GB / 64GB = 14,999 รูปี หรือประมาณ 6,5xx บาท
  • RAM 6GB / 128GB = 17,499 รูปี หรือประมาณ 7,6xx บาท

เริ่มจำหน่ายในวันที่ 14 มีนาคมผ่านทางช่องทางออนไลน์ในอินเดีย ส่วนประเทศอื่นๆ ต้องรอติดตามกันต่อไป

ขอขอบคุณ – Sanook
.
.
.

รวมโปรเน็ตดีแทคสุดแรง คลิก
facebook

#โปรเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีแทค #สมัครเน็ตดีแท

เปิดตัว iPhone SE 3 ในราคาหมื่นกลาง แต่ความแรงระดับ iPhone 13

เปิดตัว iPhone SE 3 ในราคาหมื่นกลาง แต่ความแรงระดับ iPhone 13

Apple เปิดตัว iPhone SE 3 ที่มาพร้อมกับชิปเซ็ตรุ่นล่าสุดของ Apple อย่าง Apple A15 Bionic ตัวเดียวกับที่ใช้ใน iPhone 13 และ iPhone 13 Pro และรองรับ 5G ด้วย ด้วยค่าตัวเพียง 15,900 บาทเราก็ได้สเปกที่แรงระดับเดียวกับเรือธงเลย

1553209-thumbnail

ผลทดสอบจาก Geekbench พบว่า iPhone SE 3 แรงพอ ๆ กับ iPhone 13 โดยทำคะแนน Single-core ได้ 1,695 คะแนน และคะแนน Multi-core ได้ 4,021 คะแนน นอกจากนี้ผลการทดสอบยังพบว่า iPhone SE 3 ยังมี RAM ให้มากถึง 4GB เท่ากับ iPhone 13 ด้วย นับว่าเป็น iPhone ที่ปรับสเปกภายในมาให้ค่อนข้างคุ้มค่าเลยทีเดียว

สำหรับคะแนนของ iPhone 13 Pro ที่ทดสอบบน Geekbench มีคะแนน Single-core อยู่ที่ 1,696 คะแนน และ Multi-core อยู่ที่ 4,646 คะแนน

เมื่อเทียบกับฝั่ง Android ซึ่งมีชิป Snapdragon 8 Gen 1 เป็นชิประดับเรือธง ทำคะแนนบน Geekbench ได้น้อยกว่า iPhone SE โดยทำคะแนน Single-core ได้ 1,221 คะแนน และ Multi-core ได้ 3,812 คะแนน จึงพอสรุปคร่าว ๆ ได้ว่า iPhone SE แรงกว่าเรือธงของ Android ในตลาดทุกรุ่นที่ใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 1 แต่ก็ต้องรอดูอีกทีว่า Snapdragon 8 Gen 1+ จะทำคะแนนพลิก Apple A15 ได้หรือไม่

อย่างไรก็ตาม จุดเด่นของ iPhone SE ก็มีเพียงแค่เรื่องชิปและราคาเท่านั้น เพราะสเปกโดยรวมของเครื่องก็ถือว่าล้าหลังกว่าเรือธง Android ทุกรุ่นเช่นกัน โดยเฉพาะเรื่องดีไซน์ หน้าจอ กล้องที่แทบจะเป็น iPhone 8 เปลี่ยนเครื่องในใหม่มาอย่างเดียวเลยครับ

ขอขอบคุณ – Sanook
.
.
.
.

รวมโปรเน็ตดีแทคสุดแรง คลิก
facebook

#โปรเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีแทค #สมัครเน็ตดีแทค

Xiaomi 12 Series เปิดตัวอย่างเป็นทางการ 15 มีนาคม นี้

Xiaomi 12 Series เปิดตัวอย่างเป็นทางการ 15 มีนาคม นี้

ไม่ปล่อยให้รอนานสำหรับ Xiaomi เพราะล่าสุดพวกเขาได้ส่งหมายเชิญนักข่าวเข้าร่วมงาน Master every scene ไปกับ Xiaomi 12 Series ในงานเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่อย่างเป็นทางการ

เสียวหมี่ ประเทศไทย ขอเรียนเชิญท่านสื่อมวลชนเข้าร่วมงานเปิดตัวสุดยอดสมาร์ทโฟนเรือธงแห่งปี “Xiaomi 12 Series” ที่จะให้คุณ Master every scene ไปกับการเก็บภาพทุกความทรงจำให้พิเศษยิ่งกว่าที่เคย พร้อมพบกับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์อีโคซิสเต็มรุ่นใหม่อีกมากมาย ในวันอังคาร ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 18.00 – 21:00 น.

โดยเบื้องต้นมีความเป็นไปได้ว่าเราจะได้เห็นการเปิดตัวของ Xiaomi 12 Series พร้อมราคมจำหน่ายทั่วโลก รวมไปถึงอุปกรณ์เสริมอื่นๆ อีกหลายตัวไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่อย่าง Xiaomi Watch S1 ที่มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้ และคาดว่าในงานเรายังจะได้เห็นหูฟัง Xiaomi TWS Earphones 3 เปิดตัวด้วย

gsmarena_001

ทั้งนี้ยังไม่แน่ชัดว่าในงานวันที่ 15 มีนาคมนี้ จะมีอะไรขึ้นเวทีเผยโฉมเพิ่มเติมจาก Xiaomi 12, Xiaomi 12 Pro และ Xiaomi 12X เราคงต้องมารอลุ้นไปพร้อมๆ กันครับ

gsmarena_008
ขอขอบคุณ – Sanook





รวมโปรเน็ตดีแทคสุดแรง คลิก
facebook

#โปรเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีแทค #สมัครเน็ตดีแทค

Apple เตรียมวางขายสาย Thunderbolt 4 Pro (3 เมตร) ราคา 5,390 บาท!

Apple เตรียมวางขายสาย Thunderbolt 4 Pro (3 เมตร) ราคา 5,390 บาท!

Apple เพิ่มรายการผลิตภัณฑ์ตัวใหม่บนเว็บไซต์ได้แก่ สาย Thunderbolt 4 Pro ความยาว 3 เมตร ราคา 5,390 บาท ซึ่งสำหรับหลายคนอาจจะมีราคาค่อนข้างแรง แต่หากใครที่ต้องการจะใช้สาย Thunderbolt 4 (USB-C) ที่มีความยาวมากกว่า 2 เมตรนั้นนี่อาจเป็นเพียงตัวเลือกเดียวของคุณ

สาย Thunderbolt 4 Pro มาพร้อมกับการเปิดตัว Mac Studio ซึ่งใช้ชิปที่โหดที่สุดในตระกูลอย่าง Apple M1 Ultra และ M1 Max โดยในปัจจุบันยังไม่มีการวางจำหน่าย แต่ทาง Apple จะวางจำหน่ายในอนาคต

ตัวสายเป็นสายถัดสีดำม้วนสายได้โดยไม่พันกัน และรองรับการถ่ายโอนข้อมูล Thunderbolt 3,4 และ USB 4 ความเร็วสูงสุด 40 Gb/s, การถ่ายโอนข้อมูลผ่าน USB 3.1 รุ่นที่ 2 สูงสุด 10 Gb/s, การส่งสัญญาณภาพผ่าน DisplayPort (HBR3) รวมถึงการชาร์จสูงสุด 100 วัตต์

ผู้ใช้สามารถใช้สายเส้นนี้เพื่อเชื่อมต่อ Mac ที่มี Thunderbolt 3 หรือ Thunderbolt 4 เข้ากับจอภาพและอุปกรณ์ USB-C Thunderbolt และ USB เช่น Studio Display, Pro Display XDR, แท่นวาง และฮาร์ดไดรฟ์ นอกจากนี้ Thunderbolt 4 Pro ยังสามารถเชื่อมต่อแบบเดซี่เชนกับอุปกรณ์ Thunderbolt 3 ได้สูงสุด 6 เครื่อง และบริเวณหัวต่อยังมีโลโก้ Thunderbolt อันเป็นเอกลักษณ์อีกด้วย

ส่วนใครที่ต้องการสาย Thunderbolt 4 Pro แต่ไม่ต้องการความยาว 3 เมตร Apple ก็มีการวางขายสาย Thunderbolt 4 Pro ความยาว 1.8 เมตรแล้วในราคา 4,390 บาท

ขอขอบคุณ – Sanook



รวมโปรเน็ตดีแทคสุดแรง คลิก
facebook

#โปรเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีแทค #สมัครเน็ตดีแทค