by Sokid Munkong | Oct 3, 2021 | Uncategorized
ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 พฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนทั้งโลกก็เปลี่ยนไปจากเดิม อย่างไรก็ตามก็มีผู้ที่ได้อานิสงค์จากพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปจากเดิม โดยเฉพาะแอป TikTok และ PUBG Mobile ที่มีรายได้เพิ่มขึ้นจากผู้ใช้สมาร์ตโฟนที่จ่ายเงืนให้กับผลิตภัณฑ์ใน Google Play Store และ Apple App Store
จากข้อมูลพบว่า ผู้ใช้สมาร์ตโฟนใช้จ่ายเงินไปจำนวน 33,600 ล้านเหรียญ (ประมาณ 1.134 ล้านล้านบาท) บน Play Store และ App Store ในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน ผ่านการจ่ายเงินในแอป (in-app purchase) และเข้าร่วมเป็นสมาชิก (subscription) โดยเพิ่มขึ้น 15.1% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2020
กราฟข้อมูลรายได้ของ App Store และ Play Store ในไตรมาสที่ 3 เปรียบเทียบระหว่างปี 2020 และปี 2021 ทำให้เห็นว่า App Store มีรายได้เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 13.2% และยังคงมีรายได้มากกว่า Play Store แต่ Google ก็ไล่ตามหลังมากระชั้นชิดมากขึ้นจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นถึง 18.6%
ข้อมูลจาก SensorTower แสดงให้เห็นว่า ในแอปพลิเคชันจำนวนมากที่อยู่ใน App Store และ Play store แอป TikTok เป็นผู้ที่ทำรายได้สูงที่สุดในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2021 โดยได้อันดับ 1 ใน App Store และอันดับที่ 4 ใน Play Store ตามหลัง Google One, Piccoma และ Disney+
ทางด้านรายได้จากเกมมือถือในไตรมาสที่ 3 ปี 2021 ก็ยังคงเป็นรายได้หลักของ App Store และ Play Store เช่นเคย โดยทำรายได้สูงถึง 22,400 ล้านเหรียญ (756,090 ล้านบาท) คิดเป็น 66.67% ของรายได้ทั้งหมดที่สโตร์ทั้งสองได้รับ โดยมี PUBG Mobile จากค่าย Tencent เป็นผู้ชนะที่ทำรายได้ทั้งหมดตั้งแต่เปิดตัวออกมาสูงถึง 5,000 ล้านเหรียญ ขอขอบคุณ – Sanook
by Sokid Munkong | Oct 1, 2021 | Uncategorized
ด้วยระบบการควบคุมด้วยนิ้วหัวแม่มือแบบแอนะล็อกที่สามารถกดคลิกได้ พร้อมปุ่มมัลติฟังก์ชั่น และ D-pad 8 ทิศทาง ทำให้ Razer Kishi สำหรับ iPhone ตัวใหม่ล่าสุดนี้สามารถนำเสนอความได้เปรียบในการแข่งขันรูปแบบใหม่ให้กับเหล่าเกมเมอร์ทั้งใน Apple Arcade และอื่น ๆ
เรเซอร์ (Razer) แบรนด์ไลฟ์สไตล์ชั้นนำระดับโลกสำหรับเกมเมอร์ เปิดตัว Razer Kishi Universal Gaming Controller สำหรับ iPhone อย่างเป็นทางการ โดยอุปกรณ์เสริมมือถือเวอร์ชัน iOS รุ่นนี้ได้รับ 2 รางวัลการันตีคุณภาพจากเวที Best of CES ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดดเด่นด้วยระบบการควบคุมด้วยนิ้วหัวแม่มือแบบแอนะล็อกที่คลิกได้ ปรับโฉมให้ดูโฉบเฉี่ยว ทันสมัย ปุ่มมัลติฟังก์ชั่นที่มาพร้อมกับ D-pad 8 ทิศทาง เรียกได้ว่า Razer Kishi สำหรับ iPhone นี้ ทำให้ Razer ได้รับรางวัลในฐานะฮาร์ดแวร์คอนโทรลเลอร์ดีเด่นการันตีให้กับผู้ใช้ Apple เป็นครั้งแรก
“ในขณะที่การเล่นแบบครอสเพลย์กำลังเป็นที่นิยมในตลาดเกมทั่วโลกมากยิ่งขึ้น Razer Kishi จึงนำเสนอสนามแข่งขันสำหรับนักเล่นเกมบนมือถือโดยเฉพาะ” John Moore หัวหน้าฝ่ายการตลาดและการขาย การเติบโตของอุปกรณ์ต่อพ่วงของ Razer กล่าว “Razer Kishi สำหรับ iPhone ขยายฐานความนิยมจากเหล่าเกมเมอร์ไปยังคอลเลคชั่นสุดพิเศษของ Apple Arcade ทำให้มั่นใจได้ว่าไม่ว่าคุณจะเล่นเกมที่ไหน ชัยชนะก็อยู่ในมือคุณเสมอ”
Razer มาพร้อมกับอุปกรณ์ Apple
Razer Kishi สำหรับ iPhone นำการควบคุมระดับคอนโซลไปยังอุปกรณ์ iOS ผ่านการเชื่อมต่อพอร์ต Lightning ที่ล้ำสมัย Razer Kishi สำหรับ iPhone ได้รับการรับรองจาก MFi (Made for iPhone) และสามารถใช้งานร่วมกับ Apple Arcade ได้อย่างสมบูรณ์ซึ่งถือเป็นการบริการสมาชิกเกมที่แปลกใหม่ของ Apple บน App Store ซึ่งให้บริการเกมที่สนุกสนานอย่างไม่น่าเชื่อมากกว่า 120 รายการ ด้วยการสมัครสมาชิกเพียงครั้งเดียว สามารถแชร์ให้กับสมาชิกในครอบครัวได้ถึง 6 คน สามารถเล่นข้ามจาก iPhone ไปยัง iPad, Mac และ Apple TV และสนุกกับทุกเกมโดยไม่มีโฆษณาคั่นหรือโฆษณาชวนซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติมในแอป
เรียกได้ว่าการเปิดตัว Razer Kishi เวอร์ชันล่าสุดนี้ ตัว Gaming Controller ในตระกูล Kishi จะนำประสบการณ์ความบันเทิงของการเล่นเกมรูปแบบใหม่มาสู่สาวก iPhone นับตั้งแต่รุ่น 6 Plus เป็นต้นไปและจะมีการพัฒนาต่อไปถึงอุปกรณ์รุ่นใหม่ ๆ ในอนาคตอีกเช่นเดียวกัน
Razer Kishi สำหรับ iPhone มีวางจำหน่ายแล้วใน Apple Online Store ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ผลิตภัณฑ์ Razer ถูกนำเสนอบนเว็บไซต์ โดยจะวางจำหน่ายที่ร้าน Apple บางสาขาทั่วโลกในวันที่ 22 กันยายนเพื่อเพิ่มความหลากหลายของอุปกรณ์เสริมสำหรับเล่นการเล่นเกม
ออกแบบมาเพื่อคว้าชัยชนะ
Razer Kishi ให้นักเล่นเกม iPhone สามารถใช้งานและควบคุมคอนโซลคู่หูได้ ด้วยการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ที่สะดวกสบายเหมาะสำหรับมีไว้เพื่อการเล่นเกมที่ยาวนาน พร้อมด้วยด้ามจับแบบใช้มือถือและที่มีการปรับตำแหน่งปุ่มให้เหมาะสมสำหรับการเล่นเกมที่ใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น การกำหนดค่าที่ชาญฉลาดตามหลักสรีรศาสตร์ที่ถูกต้องสามารถช่วยให้ผู้เล่นมีความสะดวกสบาย รู้สึกถึงความผ่อนคลายเป็นธรรมชาติ ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบเกม และด้วยการการเชื่อมต่อที่ชาญฉลาดช่วยให้มั่นใจได้ว่า Razer Kishi สำหรับ iPhone จะเป็นเหมือนตัวช่วยให้ผู้ใช้ได้สัมผัสการเชื่อมต่อ Lightning ที่มีความหน่วงต่ำเป็นพิเศษ เรียกได้ว่าแทบจะขจัดความล่าช้าของอินพุต ทำให้ผู้ใช้ตอบสนองต่อปุ่มได้ทันที เพื่อการควบคุมที่ราบรื่นสูงสุด การชาร์จแบบ Pass-through ทำให้แน่ใจได้ว่าการเล่นเกมจะไม่สั้นลงเนื่องจากสามารถชาร์จ iPhone ได้โดยการต่อสายชาร์จเข้ากับคอนโทรลเลอร์โดยตรง
เกี่ยวกับ RAZER KISHI สำหรับ IPHONE
iPhone ที่รองรับ ได้แก่ iPhone 6 Plus, iPhone 6s Plus, iPhone 7 Plus, iPhone 8 Plus, iPhone X, iPhone XS, iPhone XS Max, iPhone XR, iPhone 11, iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max ได้รับการรับรองจาก MFi (Made for iPhone) พอร์ตชาร์ตแบบ Lightning Pass-through ควบคุมด้วยนิ้วหัวแม่มือแบบแอนะล็อกที่สามารถกดคลิกได้
ขอบคุณ commartthailand
by Sokid Munkong | Sep 30, 2021 | Uncategorized
Samsung Galaxy Z Fold3 5G คือสมาร์ทโฟนที่กำหนดนิยามใหม่ให้กับการทำงานแบบมัลติทาส์กกิ้ง ผ่านการรวบรวมทุกฟีเจอร์ที่ผู้ใช้ต้องการมาไว้ในเครื่องเดียว
ซึ่งจากคุณสมบัติแบบ 3-in-1 ทั้งการเป็นสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ ทำให้สมาร์ทโฟนรุ่นนี้เปรียบเสมือนขุมพลังแห่งการทำงานที่พกพาไปได้ทุกที่อย่างง่ายดาย รู้อย่างนี้แล้ว เตรียมเก็บกระเป๋าแล็ปท็อปเอาไว้ที่บ้าน และมาลองดูกัน Galaxy Z Fold3 5G จะเปลี่ยนชีวิตการทำงานของคุณไปได้อย่างไร
สองพลังในหนึ่งเดียว การจับคู่ที่แสนจะลงตัวระหว่าง Galaxy Z Fold3 5G และ S Pen
S Pen ถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือชิ้นสำคัญของคนทำงาน ด้วยประสิทธิภาพของการเขียนที่แม่นยำ ความอเนกประสงค์ด้านการใช้งาน รวมถึงขนาดที่ง่ายต่อการพกพา ซึ่งเมื่อนำมารวมกับความโดดเด่นของสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้ ที่มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ 7.6 นิ้ว ทำให้สามารถเพิ่มขอบเขตการใช้งาน S Pen ให้ทรงพลังยิ่งขึ้น
เมื่อใช้งาน Flex Mode คุณจะสามารถวาง Galaxy Z Fold3 5G เพื่อใช้ประชุมออนไลน์ได้ทุกที่ โดยไม่ต้องพิงหรือใช้แท่นวาง และยังหมดกังวลกับการต้องหาสมุดกับปากกามาจดโน้ตระหว่างประชุม เพราะด้วยความสามารถของ S Pen และฟีเจอร์ Multi-Active Window ทำให้คุณสามารถเรียกใช้งาน Samsung Notes เพื่อจดโน้ตบริเวณจอครึ่งล่าง หรือเมื่อตอบอีเมล ก็ไม่จำเป็นต้องพิมพ์ตอบอีกต่อไป เพราะ Microsoft Outlook ในสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ รองรับฟีเจอร์การแปลงลายมือเป็นข้อความโดยอัตโนมัติอีกด้วย
นอกจากนี้ หลากหลายฟังก์ชันที่คนนิยมใน S Pen ก็มาอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการเขียนข้อความลงบนหน้าจอด้านนอกโดยไม่ต้องปลดล็อก การแก้ไขเอกสารในรูปแบบ PDF พร้อมบันทึกเสียงเพื่อแนบเป็นคำอธิบายเพิ่มเติมก่อนแชร์ต่อ การเลือกใช้งาน Air Command เพื่อควบคุมปุ่มลัดต่างๆ หรือหากใครที่ทำงานด้วยการสื่อสารหลายภาษา ก็สามารถเรียกใช้เครื่องมือแปล (Translate) ได้ทันที ไม่ต้องสลับไปมาหลายแอปให้เสียเวลา
ซัมซุงยังได้ร่วมมือกับไมโครซอฟต์ เพื่อให้การประชุมหรือเบรนสตรอมงานร่วมกันแม้อยู่ต่างสถานที่เป็นไปได้ง่ายขึ้น ด้วยการออกแบบไวท์บอร์ดเสมือนจริง (Virtual Whiteboard) ที่ทำงานบนสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้และ S Pen เพื่อให้แต่ละคนได้เขียนเพื่อระดมความคิด แบ่งปันไอเดียต่างๆ ร่วมกัน
ตอบโจทย์สายมัลติทาส์ก ด้วย Multi-Active Window และ Flex Mode
โดดเด่นด้วยการใช้งาน 3 แอปพลิเคชันได้พร้อมกัน ไม่ต้องเสียเวลาสลับแอปไปมา ซึ่งฟีเจอร์นี้ทำให้คุณสามารถดูตารางงาน พร้อมกับอ่านอีเมล รวมถึงแชทคุยกับเพื่อนร่วมงานไปพร้อมกันได้ หรือแก้ไขไฟล์ Excel พร้อมบวกเลขผ่านแอปเครื่องคิดเลข ก่อนส่งออกผ่าน Microsoft Outlook
ซึ่งแต่ละหน้าจอสามารถปรับขนาดความสูงหรือความกว้างได้ตามต้องการ หรือจะแบ่งหน้าจอออกเป็นสองส่วน ผ่าน Flex Mode ก็ทำได้เช่นกัน ทั้งนี้ หากแอปพลิเคชันไหน ไม่รองรับการทำงานบน Flex Mode ซัมซุงได้เตรียมฟีเจอร์ Labs เพื่อปรับให้แอปพลิเคชันนั้นสามารถใช้งานแบบแบ่งครึ่งหน้าจอได้อีกด้วย
Microsoft Office ในรูปแบบที่คุ้นเคย เพื่อการใช้งานที่ง่ายขึ้น
แอปพลิเคชันด้านการทำงาน รวมถึงแอปพลิเคชันที่ผู้ใช้นิยมใช้งานเป็นประจำ ได้ถุกออกแบบให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นใน Galaxy Z Fold3 5G เช่น แอปพลิเคชันส่งข้อความ ก่อนหน้านี้ คุณต้องทำการปิดแชทหนึ่งก่อนเปิดใช้งานอีกแชท แต่ตอนนี้ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ ทำให้ลิสต์กลุ่มแชทจะปรากฏขึ้นทางด้านซ้าย และข้อความจะแสดงทางด้านขวา ทำให้เห็นทุกอย่างได้พร้อมกันในครั้งเดียว หรือแม้กระทั่งแอปพลิเคชันปฏิทิน
สำหรับการดูตารางงานต่างๆ เมื่อก่อนนี้ แผงเมนูจะรบกวนสายตายามที่เราเลือกใช้ และทำให้พื้นที่บนหน้าจอลดลง แต่ด้วย UI 3.1.1 ทุกอย่างได้รับการจัดวางอย่างเป็นระเบียบ ใช้งานง่ายและชัดเจน
อีกหนึ่งฟีเจอร์ใหม่ ที่หลายคนน่าจะชื่นชอบ คือ Drag and Drop ลองจินตนาการว่าคุณกำลังดู YouTuber คนโปรดรีวิวสินค้า จนรู้สึกสนใจอยากดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจซื้อ หากเป็นสมาร์ทโฟนทั่วไป คุณอาจจะต้องปิดวิดีโอก่อน แล้วค่อยเข้าเบราว์เซอร์เว็บไซต์แบรนด์ดังกล่าว
แต่ด้วย Galaxy Z Fold3 5G ผู้ใช้จะสามารถดึง URL เว็บไซต์ของแบรนด์ดังกล่าวแสดงขึ้นในอีกหน้าจอหนึ่ง พร้อมกับชม YouTube ต่อไปด้วย หรือหากต้องการดูตัวเลือกอื่นเพื่อเปรียบเทียบ ก็สามารถลากแบ่งมาอีกช่องหนึ่งได้เช่นกัน
ในด้านการทำงาน สมมติว่าคุณต้องแก้ไขงานด่วนระหว่างเดินทาง เพียงเปิดไฟล์เอกสารจากแชทของ Microsoft Teams บนสมาร์ทโฟน พร้อมลากและวาง (Drag and Drop) ไฟล์เอกสารอื่นๆ ที่ต้องการนำมาปรับแต่งหรืออ้างอิง และคัดลอกไฟล์ ย้ายข้อมูล ส่งไฟล์กลับไปได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องเปิดคอมพิวเตอร์เครื่องใหญ่อีกต่อไป
คลิกน้อยลง ประหยัดเวลามากขึ้น ด้วย Edge Panel
เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว เมื่อเจอแอปพลิเคชันที่ใช้คู่กันงานบ่อย ผู้ใช้สามารถรวมกลุ่มแอปเหล่านั้นไว้ที่ Edge Panel บริเวณแถบด้านข้าง หลังจากนั้น เพียงกดครั้งเดียวทุกแอปพลิเคชันที่ตั้งค่าไว้ก็จะพร้อมใช้งานบนหน้าจอทันที รวมถึงผู้ใช้ยังสามารถสลับการใช้งานระหว่างแอปพลิเคชันต่างๆ เพียงแค่เลื่อนแถบดังกล่าว แทนที่ต้องกลับไปที่หน้าหลัก (Home Screen) ได้อีกด้วย
นอกจากนี้ ซัมซุงยังได้ออกแบบให้หน้าจอหลักทั้งด้านนอกและด้านในเลือกปรับแต่งแอปพลิเคชันที่แตกต่างกันได้เพื่อรองรับการใช้งานยามพับหรือกางหน้าจอ ยกตัวอย่างเช่น หน้าจอด้านนอกที่ใช้งานบ่อย คุณอาจจะเลือกแอปพลิเคชันรับ-ส่ง ข้อความ โซเชียลมีเดียต่างๆ หรือ Google เพื่อการค้นหาข้อมูลอย่างรวดเร็ว
ในขณะที่หน้าจอด้านใน จะเน้นไปที่แอปพลิเคชันด้านการทำงาน อย่าง Microsoft Outlook เพื่อตอบอีเมล Microsoft Word หรือ Excel เพื่อแก้ไขงานเอกสารต่างๆ รวมถึง Zoom เพื่อการประชุมออนไลน์ เป็นต้น
3-in-1 สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ รวมอยู่แล้วใน Galaxy Z Fold3 5G
อีกหนึ่งเคล็ดลับเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับคนทำงาน คือฟีเจอร์ Samsung DeX ที่จะทำให้ Galaxy Z Fold3 5G กลายเป็นคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป ผ่านการเชื่อมต่อแบบไร้สายกับ Samsung Smart Display หรือ Smart TV ซึ่งการทำงานของ Samsung DeX นั้น ไม่เหมือนกับการสะท้อนหน้าจอทั่วไป (Screen Mirroring) แต่เป็นการมอบประสบการณ์เสมือนการใช้งานคอมพิวเตอร์จริง
โดยผู้ใช้สามารถเปิดใช้งานหลายแอปพลิเคชันได้พร้อมกันบนหน้าต่างที่ปรับขนาดได้ตามต้องการ หรือเรียกใช้งาน Microsoft Office ก็เป็นไปอย่างลื่นไหล นอกจากนี้ คุณยังสามารถเปลี่ยน Galaxy Z Fold3 5G ให้เป็น Trackpad แทนเมาส์ หรือ virtual keyboard เพื่อใช้ทำงานร่วมกันได้ หรือจะเปลี่ยนเป็นเชื่อมต่อบลูทูธเพื่อใช้งานเมาส์หรือคีย์บอร์ดจริงก็ทำได้เช่นกัน
ด้วยคุณสมบัติทั้งหมดที่กล่าวไป ถือเป็นการตอกย้ำว่า Galaxy Z Fold3 5G คือสมาร์ทโฟนที่เกิดมาเพื่อการทำงานแบบ Hybrid Working อย่างแท้จริง ซึ่งหากใครต้องการเปลี่ยนมาใช้สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ ก็ไม่ต้องกังวลว่าข้อมูลสำคัญ ที่อยู่ในเครื่องจะหายไป เพราะด้วยแอปพลิเคชัน Smart Switch ผู้ใช้จะสามารถโอนถ่ายข้อมูลต่างๆ จากเครื่องเก่าไปเครื่องใหม่ได้อย่างรวดเร็วในเวลาเพียง 10-20 นาที
โดยไม่จำกัดว่าเครื่องเก่าจะใช้งานระบบปฏิบัติการใด ซึ่งนอกจากจะย้ายข้อมูลเบอร์โทร รูปภาพ วิดีโอ และไฟล์เอกสารต่างๆ แล้ว ล่าสุด นับเป็นครั้งแรกของสมาร์ทโฟนซัมซุง กาแลคซี่ ที่ผู้ใช้งานระบบปฏิบัติการ iOS จะสามารถย้ายข้อมูลทั้งหมดที่อยู่บนแอปพลิเคชัน WhatsApp ไม่ว่าจะเป็นข้อความ เอกสาร หรือรูปภาพมายังสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ได้แบบครบถ้วนอีกด้วย
ขอบคุณ – Sanook
by Sokid Munkong | Sep 29, 2021 | Uncategorized
Lenovo ได้เปิดตัว Tablet หลากหลายรุ่นใหม่ล่าสุดเพื่อตอบรับกับ Lifestyle ของผู้บริโภคที่เรียนและทำงานอยู่บ้านมากขึ้นกับรุ่นเล็กแต่พลังแรงและไปถึงรุ่นใหม่ โดยมีให้เลือกท้งหมดดังนี้
Lenovo Tab P11 Plus
สำหรับการใช้งานขั้นสูงภายใต้ดีไซน์เรียบหรูในเฉดสีทูโทน Lenovo Tab P11 Plus มาพร้อมหน้าจอขนาด 11 นิ้ว แบบ TDDI IPS (2000 x 1200) ขอบจอบางทั้ง 4 ด้าน รองรับความละเอียดสูงระดับ 2K พร้อมยังให้ระดับความสว่างหน้าจอสูงถึง 400 nits จึงทำให้คุณได้ภาพที่คมชัดไม่ว่าคุณจะใช้งานที่ร่ม หรือท่ามกลางแสงแดด
กล้องความละเอียดสูงขนาด 8MP พร้อมเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนรอบข้าง และลำโพงสเตอริโอสี่ทิศทางจาก Dolby Atmos ช่วยให้ทุกการประชุมออนไลน์เป็นเรื่องง่ายในทุกสภาวะแวดล้อม
ชิปประมวลผลแบบ octa-core บนสถาปัตยกรรม ARM อย่าง MediaTek Helio G90T ให้เครื่องใช้งานได้อย่างลื่นไหลผ่านหน่วยความจำขนาด 6GB และพลังจากแบตเตอรี่ที่ช่วยให้การใช้งานต่อเนื่องทำได้ยาวนานถึง 12 ชั่วโมง
เสริมการใช้งานให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นด้วยอุปกรณ์เสริมอย่าง คีย์บอร์ดที่มาพร้อมแทรคแพดและปุ่มลัด หรือจะใช้งานโปรแกรม Sketch, Paint หรือจดโน้ตก็ทำได้อย่างง่ายดายผ่านปากกา Lenovo Precision Pen 22 ที่รองรับแรงกดและความเอียงได้มากถึง 4,096 ระดับ ใช้งานได้นานต่อเนื่อง 200 ชั่วโมงต่อการชาร์จเพียง 1 ครั้ง
Lenovo Tab P11 Plus ยังมีแอปพลิเคชันสำหรับเด็กโดยเฉพาะอย่าง Google Kids Space7 ซึ่งรวบรวมแอป, เกม และหนังสือมากกว่า 10,000 รายการที่ได้รับการยอมรับทั้งจากครูและนักการศึกษาว่าเป็นประโยชน์ในการส่งเสริมทักษะให้กับเด็ก
Lenovo Tab P11 5G
เมอร์จากเลอโนโวที่มาพร้อมเทคโนโลยี 5G กับ Lenovo Tab P11 5G ซึ่งรองรับการทำงานบนเครือข่าย sub-6GHz 5G4
สวยงาม สะดวกต่อการพกพาด้วยหน้าจอที่ทำจากวัสดุคล้ายกระจก และตัวรับสัญญาณ บนจอภาพขนาด 11 นิ้วแบบ IPS ให้ความละเอียดของภาพสูงถึง 2K พร้อมเทคโนโลยี Dolby Vision อีกทั้งยังผ่านการรับรอง TÜV-certified ว่าช่วยถนอมสายตาจากแสงสีฟ้า ตัวเครื่องรองรับพอร์ตการเชื่อมต่อ DisplayPort และรองรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมอย่าง คีย์บอร์ดและ Lenovo Precision Pen 2
ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบไฮบริดทั้งเพื่อการทำงานและการเรียนด้วยการเชื่อมต่อ 5G ผ่านซิมการ์ดแบบนาโน หรือจะปลดล๊อกเครื่องโดยไม่ต้องใช้มือด้วยเซ็นเซอร์สแกนใบหน้าที่อยู่บนกล้องหน้า เครื่องยังมาพร้อมเทคโนโลยีเบลอภาพแบ็คกราวด์เพื่อความเป็นส่วนตัว จะดาวน์โหลดไฟล์ขนาดใหญ่หรือสตรีมวีดีโอก็ไม่เป็นปัญหาด้วยชิป Snapdragon 750G 5G Mobile Platform และหน่วยความจำขนาด 8GB ความจุขนาด 256GB ของเครื่องที่เชื่อมต่อกับสัญญาณ 5G ซึ่งรวดเร็วกว่า 4G ถึง 10 เท่า
ให้คุณภาพเสียงคมชัดด้วยลำโพง 4 ตัวจาก JBL และระบบเสียง Dolby Atmos
Lenovo Tab M7 (3rd Gen)
Lenovo Tab M7 เจนเนอเรชั่น 3 คือแท็บเล็ตสำหรับครอบครัวที่มาพร้อมดีไซน์วัสดุแบบเมทัลให้ความบางและเบาแต่แฝงไปด้วยพลังการประมวลผลจากชิปแบบ quad-core 2GHz ให้ประสิทธิภาพที่แรงขึ้นกว่ารุ่นก่อน เครื่องยังมาพร้อมแบตเตอรี่ที่ให้การรับชมวีดีโอต่อเนื่องได้ยาวนานถึง 10 ชั่วโมง3 ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
การดีไซน์ที่ออกแบบมาโดยคำนึงถึงการใช้งานของทุกคนในครอบครัวอย่างแท้จริงทำให้ Lenovo Tab M7 มีขนาดหน้าจอ 7 นิ้ว แบบ IPS เครื่องบางเพียง 8.3 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักเพียง 236.9 กรัม เครื่องมาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 2MP แบบ fixed-focus และกล้องหลังความละเอียด 2MP แบบ auto-focus
Lenovo Tab M8 (2nd Gen) HD
สำหรับผู้ที่มองหาแท็บเล็ตที่สวยงาม มีสไตล์ ต้องไม่มองข้าม Lenovo Tab M8 เจนเนอเรชั่น 2 ที่มีขนาดบางเพียง 8.15 มิลลิเมตร ด้านหลังเครื่องทำจากวัสดุเนื้อเมทัล ขอบเครื่องโค้งมนให้สัมผัสที่เรียบหรู เหมาะมือ เครื่องมาพร้อมหน้าจอแบบ IPS HD ที่ให้มุมมองภาพสูงถึง 82% เมื่อเทียบสัดส่วนตัวเครื่องจึงให้ภาพที่เต็มตาทั้งยังผ่านการรองรับว่าถนอมสายตาจาก TÜV®-certified และระบบบเสียง Dolby Audio
ระบบปฏิบัติการณ์ Android™ 9 Pie™ หน่วยประมวลผลแบบ quad-core และแบตเตอรี่ที่รองรับการใช้งานทั่วไปได้สูงสุดถึง 18 ชั่วโมงทำให้แท็บเล็ต Lenovo Tab M8 เป็นตัวเลือกที่เหมาะกับการใช้งานเพื่อความบันเทิงไม่ว่าจะเป็น ดูวีดีโอ เช็คโซเชียลมีเดีย ฟังเพลง และอื่น ๆ อย่างแท้จริง
Lenovo Tab M10 FHD Plus (2nd Gen)
Lenovo Tab M10 FHD Plus เจนเนอเรชั่น 2 มาพร้อมหน้าจอ FHD (1920 x 1080) IPS มุมมองภาพกว้าง 160 องศา ขนาด 10.3 นิ้ว ให้ภาพและสีสมจริง เห็นครบทุกรายละเอียดด้วย 70.3% NTSC color gamut และค่าความสว่าง 330 nits นอกจากนี้หน้าจอยังมีการรับรอง TÜV Rheinland eye protection ช่วยลดทอนแสงสีฟ้าเพื่อลดอาการเมื่อยล้าของดวงตาระหว่างการใช้งานเป็นเวลานาน รวมถึงเทคโนโลยีจดจำใบหน้าที่ทำงานรวดเร็วและปลอดภัย ช่วยให้ปลดล็อคเครื่องได้เพียงแค่ยิ้ม
เก็บภาพความทรงจำแบบละเอียดคมชัดด้วยกล้องหลังความละเอียด 8MP auto-focus และกล้องหน้าความละเอียด 5MP fixed focus พร้อมดื่มด่ำกับความบันเทิงแบบเต็มอรรถรส ไม่ว่าจะตอนฟังดนตรี เล่นเกม ดูวิดีโอ ฟังพอตแคสต์ หรือคุยกับเพื่อนผ่านวิดีโอคอล ด้วยลำโพงคู่สองข้างที่มี Dolby Atmos® และไมโครโฟน dual array พร้อม DSP
ภายใน ตัวเครื่องมาพร้อมหน่วยประมวลผล MediaTek® Helio P22T octa-core และระบบปฏิบัติการ Android 10™ มอบประสิทธิภาพการใช้งานอย่างเต็มสมรรถภาพได้ไร้ที่ติ ตัวเลือกหน่วยความจำมากสุด 4 GB LPDDR4 และตัวเลือกความจุมากสุด 128 GB eMMC แถมยังรองรับการ์ด microSD ทำให้เพิ่มความจุได้ถึง 256GB, WiFi 802.11 และ Bluetooth 5.0 ในกรณีที่ใช้ WiFi ไม่ได้ สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่าน mobile data แทนได้ เพียงใส่ SIM card เข้าไปในช่อง Nano-SIM card หมดห่วงเรื่องต้องชาร์จเครื่องบ่อย ด้วยแบตเตอรี่ 5000 mAh เพียงพอสำหรับการดูวิดีโอออนไลน์ต่อเนื่อง 8.5 ชั่วโมง
ส่วนราคามีดังนี้
Lenovo Tab P11 Plus ราคาจำหน่ายที่15,990 บาท Lenovo Tab M10 FHD (2nd Gen) ราคาจำหน่ายที่8,490 บาท Lenovo Tab M8 (2nd Gen) ราคาจำหน่ายที่4,990 บาท Lenovo Tab M7 (3rd Gen ราคาจำหน่ายที่3,690 บาท Lenovo Tab P11 5G ราคาจำหน่ายจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งภายหลัง
ขอบคุณ – Sanook
by Sokid Munkong | Sep 28, 2021 | Uncategorized
Inifnix เปิดตัวโน้ตบุ๊ครุ่นใหม่ล่าสุด INBook X1 Series กับการออกแบบที่มีสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของบริษัทฯ โดดเด่นด้วยความบางและน้ำหนักเบา ไม่ถึง 1.5 กิโลกรัม มาพร้อมกับหน่วยประมวลผลจาก Intel, ระบบปฏิบัติการ Windows 10 จาก Microsoft และเทคโนโลยีชาร์จไว 65W แบบ PD ในราคาเริ่มต้น 11,900 บาท
ครั้งแรกกับ ความคล่องตัวที่ยอดเยี่ยม
INBook X1 ของ Infinix มาพร้อมตัวเครื่องที่เคลือบผิวด้วยอลูมิเนียมแบบผิวทราย โดยเลือกใช้วัสดุอลูมิเนียมเกรดอากาศยานเพื่อความแข็งทนทาน ป้องกันการขีดข่วน ตัวเครื่องมีน้ำหนัก 1.48 กิโลกรัม และหนาเพียง 16.3 มิลลิเมตร พร้อมบานพับหมุนได้ 180 องศา จนสามารถกางราบกับพื้นได้ ช่วยให้ผู้ใช้นำเสนอไอเดียใหม่ ๆ หรือแชร์วิดีโอได้ในทุกลักษณะตามที่ต้องการ นอกจากนี้ซีรีส์ INBook X1 ยังมีพอร์ตเชื่อมต่อหลายพอร์ตเพื่อรองรับการใช้งานหลายอย่างพร้อมกัน เช่น การส่งข้อมูล การชาร์จความเร็วสูง และการแคสต์หน้าจอ
นอกจากนี้ ยังสามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้นด้วยแบตเตอรี่ 55 วัตต์ต่อชั่วโมง (Wh) ที่ทำให้ใช้งานได้ตลอด ทั้งวันจากการชาร์จครั้งเดียว ซึ่งนานถึงประมาณ 11 ชั่วโมงสำหรับการใช้เวลาบนหน้าจอเพื่อท่องเว็บไซต์ต่างๆ เล่นวิดีโอและอีกมากมาย ผู้ใช้งานยังจะได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีระบบการจัดการแบตเตอรี่ของ Infinix ทำให้แบตเตอรี่ใช้ได้ยาวนานขึ้น ช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าในหลายสถานการณ์ นอกจากนี้ อะแดปเตอร์ 65W PD3.0 AC ของ INBook X1 ยังเพิ่มประสิทธิภาพการชาร์จโดยสามารถชาร์จแบตเตอรี่ถึงระดับ 70% ภายในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง ยิ่งไปกว่านั้น ที่ชาร์จขนาดเล็กยังรองรับโทรศัพท์มือถือ Infinix ทั้งหมดได้อย่างสะดวก ทำให้การทำงานขณะเดินทางง่ายขึ้นอย่างแท้จริง
สีสันที่สดใสและคมชัดจนสะดุดตา
ซีรีส์ INBook X1 มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีเทาอวกาศ และสีแดงแพลตตินัม ซึ่งดีไซน์โดยรวมของแล็ปท็อปให้ประกายของโลหะเพื่อแสดงถึงความสวยงามของท้องฟ้ายามค่ำคืนตามแนวเขตพรมแดนของนอร์เวย์ ทั้งยังแสดงออกถึงการออกแบบที่ไร้ขีดจำกัดและลักษณะเด่นเฉพาะตัวของแล็ปท็อป Infinix อีกด้วย ตัวเครื่องเป็นโลหะที่บางเบาประกอบด้วยจอแสดงผล FHD IPS ขนาด 14 นิ้ว แสดงให้เห็นถึงความสามารถทางวิศวกรรมของ Infinix ด้วยขอบนอกบางพิเศษเพียง 4.19 มิลลิเมตรทุกด้าน เพื่อประโยชน์ในการใช้พื้นที่หน้าจอได้อย่างสูงสุด
ประสิทธิภาพการระบายความร้อนที่ดีที่สุด
ซีรีส์ INBook X1 มาพร้อมขุมพลังจากโปรเซสเซอร์ประสิทธิภาพสูงจาก Intel พร้อมด้วยระบบปฏิบัติการ Windows 10 และ Microsoft 365* ที่ติดตั้งมาเพื่อรองรับการทำงานที่ใช้ทรัพยากรระบบสูง เช่น การประมวลผลข้อมูลและการเขียนโปรแกรม อีกทั้งยังตอบสนองความต้องการการใช้งานนอกสถานที่ที่หลากหลาย ระบบระบายความร้อน Poloar Monster ใช้ท่ออากาศเกรดมาตรฐานทหารเพื่อลดอุณหภูมิในขณะทำงานหนักหน่วงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม การรักษาประสิทธิภาพการทำงานอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญสำหรับโลกในยุคปัจจุบัน INBook X1 มาพร้อมแอปพลิเคชันการแสดงภาพหน้าจอซิงโครไนซ์ ที่ให้ผู้ใช้งานเข้าถึงโซลูชันหลายหน้าจอผ่านช่วยให้สามารถซิงค์ไครไนซ์ไฟล์การทำงานกับแล็ปท็อป โทรทัศน์ และสมาร์ตโฟนเครื่องอื่นๆ ได้อย่างราบรื่น ให้ผู้ใช้สามารถสร้างสรรค์ผลงานออกมาได้ในทุกที่ทุกเวลา
นอกจากนียังมี INBook X1 Pro ที่มาพร้อมกับการ์ดเครือข่ายไร้สายในตัวที่รองรับ WiFi 6 และ Bluetooth 5.1 ที่ช่วยเพิ่มความเร็วเครือข่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังมีเว็บแคมความละเอียด 720P ที่สามารถปิดได้อย่างสมบูรณ์แบบเพื่อความเป็นส่วนตัว รวมถึงไมโครโฟนดิจิทัลสองตัวเพื่อการสื่อสารทางวิดีโอและเสียงได้อย่างราบรื่น
แม้ในสภาพแวดล้อมที่เสียงดัง ตอบสนองวิถีการทำงานใหม่ที่จำเป็นต้องใช้การประชุมทางวิดีโอเป็นหลัก ทั้งยังมีระบบปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือ เพื่อให้ผู้ใช้เข้าถึงโน้ตบุ๊กได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย ในด้านความบันเทิง INBook X1 Pro มาพร้อมระบบสเตอรีโอแบบสี่ชั้นเพื่อให้เสียงรอบทิศทาง โดยเพิ่มประสิทธิภาพจากเทคโนโลยีเสียง DTS ที่มีสิทธิบัตรเพื่อให้ประสบการณ์ภาพและเสียงที่ดื่มด่ำขั้นสูงสุดทั้งในตัวอาคารและนอกอาคาร
Infinix INBook X1 มีวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ววันนี้โดยมีราคาดังนี้
INBook X1 Pro มาพร้อมโปรเซสเซอร์ Intel® Core™ i7 พร้อมการ์ดจอ Intel Iris Plus สูงสุดถึง 64EU ราคา 21,990 บาท INBook X1 พร้อมโปรเซสเซอร์ Intel® Core™ i5 ราคา 15,900 บาท INBook X1 พร้อมโปรเซสเซอร์ Intel® Core™ i3 – ราคา 11,900 บาท
ขอบคุณ – Sanook