by Sokid Munkong | Dec 20, 2021 | Uncategorized
การแข่งขันกีฬาอีสปอร์ต เกม RoV รายการชิงแชมป์นานาชาติ Arena of Valor International Championship หรือ AIC 2021 เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม รอบแกรนด์ไฟนอล บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อีสปอร์ตส์ จากประเทศไทย พบกับ วี เกมมิ่ง จากเวียดนาม
โดยคู่นี้ทีมตัวแทนจากไทยเริ่มต้นได้ดี ออกนำไปก่อนในเกมแรก 1-0 เกม แต่หลังจากนั้นเป็นฝั่ง วี เกมมิ่ง ที่กลับมาเล่นได้ตามฟอร์มเก่งของตัวเอง แซงนำ 3-1 เกม ต้องการอีกเกมเดียวเพื่อเป็นแชมป์
อย่างไรก็ตามในเกมที่ 5 ฝั่งปราสาทสายฟ้ายังฮึดสู้ไม่ยอมแพ้ และไล่ตีตื้นขึ้นมาเป็น 2-3 เกม ก่อนจะสานต่อความแรงของตัวเองได้ในเกมถัดมา ไล่ตีเสมอ 3-3 เกม ต้องไปตัดสินตำแหน่งแชมป์กันในเกมที่ 7 ซึ่งจะเป็นการรีเซ็ต Pick/Ban ทั้งหมดขอขอบคุณ – Matichon รวมโปรเน็ตดีแทคสุดแรง คลิก
by Sokid Munkong | Dec 19, 2021 | Uncategorized
นักวิจัยความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity researcher) จาก Pradeo ได้อัปเดตบทความระบุแอปพลิเคชันมือถือบน Google Play Store ที่มีมัลแวร์โจ๊กเกอร์ (Joker Malware) ติดมาด้วย โดยแอปพลิเคชัน Color Message เป็นแอปพลิเคชันล่าสุดที่ถูกตรวจพบ!
Color Message เป็นแอปพลิเคชันที่อนุญาตให้คนปรับแต่งข้อความ SMS ตามความชอบของผู้ใช้ โดยมีผู้ใช้ Android ที่ดาวน์โหลดไปมากถึง 500,000 ครั้ง และบางคนได้ค้นพบจุดประสงค์ของผู้พัฒนาที่แท้จริงแล้ว แม้อาจจะสายเกินไป
เป้าหมายของ Joker คือกลุ่มผู้ที่กด Subscribe ของแอป และแอบสมัครบริการต่าง ๆ โดยจำลองการคลิกและแทรกข้อความ SMS ต่างๆ ทั้งยังสามารถโขมยข้อมูลจาก SMS ทั้งเนื้อหา รายการผู้ติดต่อ และข้อมูลของอุปกรณ์ได้อีกด้วย
Pradeo อธิบายว่า Joker เป็นมัลแวร์ที่สามารถตรวจพบได้ยาก เพราะมันใช้โคดเพียงเล็กน้อยและแอบแฝงตัวอย่างมิดชิด ทั้งตัวแอป Color Message ยังถูกลบออกได้ยากเพราะมันสามารถซ่อนไอคอนตนเองหลังจากการติดตั้งได้อีกด้วย
ตัวอย่างการรีวิวจากผู้ใช้จะเห็นได้ว่า มีคนที่โดนหลอกโขมยเงินจากแอปดังกล่าวแล้ว และได้พยายามแจ้งเตือนผู้ใช้คนอื่น ๆ ว่าอย่าโหลดแอปพลิเคชันดังกล่าว ล่าสุด Google ได้ลบ Color Message ทิ้งไปแล้ว และแนะนำให้คนที่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันนี้รีบถอนการติดตั้งให้เร็วที่สุด! Joker เป็นมัลแวร์ที่แฝงตัวอยู่ในแอปใน Play Store หลายร้อยแอปตลอดหลายปีที่ผ่านมา และตัวอย่างแอปที่ถูกค้นพบว่ามีมัลแวร์ดังกล่าวนั้นได้แก่ แอป Squid Game ของปลอม (fake Squid Game) ที่มีผู้ใช้ดาวน์โหลดไปหลายพันครั้งขอขอบคุณ – Sanook รวมโปรเน็ตดีแทคสุดแรง คลิก
by Sokid Munkong | Dec 18, 2021 | Uncategorized
ใกล้แล้วที่ Samsung Galaxy Tab S8 Series จะเผยโฉม ถือว่าเป็น Tablet ที่ดีที่สุดของ Samsung โดยมีรายละเอียดที่น่าสนใจโดยเฉพาะตัวท็อปอย่าง Tab S8 Ultra เป็นต้น ล่าสุดมีสเปกของเครื่องมีอยู่ที่ 14.6 นิ้ว ความละเอียดหน้าจอ 2960×1848 พิกเซล ใช้ Panel แบบ Super AMOLED พร้อมกับ Refresh Rate 120Hz
ความบางของเครื่องอยู่ที่ 6.3 มิลลิเมตร กล้องหน้าติดตั้งมาให้ทั้ง 2 ตัวความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ทำให้มี Notch หรือติ่งที่หลายคนเห็นนั่นเอง ทั้งนี้ในรุ่นนี้จะได้ขุมพลัง Snapdragon 8 Gen 1 พร้อมกับ RAM 8 / 12 / 16GB ความจำให้เลือกมีทั้ง 128 / 256 และ 512GB ทั้งนี้ยังไม่ระบุว่าเพิ่มความจำได้หรือไม่
แบตเตอรี่ของ Tab S8 Ultra อยู่ที่ 11,200 mAh รองรับกำลังชาร์จไฟ 45W ให้มาในกลอ่อง ด้านหลังมีกล้องความละเอียด 13 + 6 ล้านพิกเซล คาดว่า Software จะใช้ One UI 4.1 พร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 12 และมีฟีเจอร์ของ Samsung Dex ฟีเจอร์สลับไปยัง Desktop Mode -องเครื่องและ เพิ่มความสว่าง หรือ Extra Dim เป็นต้น ทั้งหมดนี้คาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงแรกของปี 2022 นี้ แต่จริงหรือไม่ต้องรอดูกันต่อไปขอขอบคุณ – Sanoook รวมโปรเน็ตดีแทคสุดแรง คลิก
by Sokid Munkong | Dec 17, 2021 | Uncategorized
ในเดือนพฤศจิกายน MediaTek ได้เปิดตัวชิปเรือธงประจำปี 2022 Dimensity 9000 5G และล่าสุดมีการยืนยันรายชื่อบริษัทผู้ผลิตสมาร์ตโฟนที่จะเป็นกลุ่มแรกที่ได้ใช้ชิป SoC รุ่นนี้แล้ว ได้แก่ OPPO, Vivo, Xiaomi และ Honor โดยทั้ง 4 แบรนด์จะเปิดตัวสมาร์ตโฟนที่ใช้ชิปดังกล่าวในไตรมาสที่ 1 ปี 2022
Dimensity 9000 เป็นชิปเซต 5G ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี 4 นาโนเมตรของ TSMC ทำให้มีประสิทธิภาพและประหยัดพลังงานมากขึ้น ทั้งติดตั้งชิป 5G ตัวใหม่รองรับย่านความถี่ sub-6GHz และเป็นชิปเซตสมาร์ตโฟนรุ่นแรกที่รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.3
รองประธานของ OPPO เปิดเผยว่า OPPO ตระกูล Find X จะเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกที่เปิดตัวพร้อม Dimensity 9000 ซึ่งคาดว่าจะเป็นรุ่น Find X4 ในขณะที่ Find X4 Pro จะใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 1
ทางด้านรองประธานของ Xiaomi ก็ยืนยันว่าไลน์อัป Redmi K50 จะเป็นสมาร์ตโฟนที่มาพร้อมชิปรุ่นดังกล่าว แม้ทางบริษัทยังไม่บอกว่า Redmi K50 รุ่นใดที่จะใช้ Dimensity 9000 แต่คาดการณ์ว่า K50 Gaming จะเป็นรุ่นที่ได้ใช้ชิปเรือธงตัวใหม่ของ MediaTek ไป
สำหรับ Vivo และ Honor ยังไม่มีการประกาศว่า อุปกรณ์รุ่นใดที่จะเปิดตัว แต่ทั้ง 2 แบรนด์ได้บอกใบ้ว่า สมาร์ตโฟนรุ่นต่อไปจะเป็นสมาร์ตโฟน 5G รุ่นเรือธงรุ่นใหม่ (new generation 5g mobile phone) ที่มีประสิทธิภาพอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เพื่อผลักดันความสามารถด้าน 5G และนวัตกรรมขอขอบคุณ – Sanook รวมโปรเน็ตดีแทคสุดแรง คลิก
by Sokid Munkong | Dec 16, 2021 | Uncategorized
OPPO บริษัทเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลก ประกาศเปิดตัว OPPO Find N สมาร์ทโฟนแฟล็กชิพจอพับรุ่นแรก (Foldable flagship smartphone) ในวันที่สองของการจัดแสดงนวัตกรรม OPPO INNO DAY 2021 ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนที่เกิดจากการวิจัยและพัฒนาเป็นระยะเวลานานถึง 4 ปี และสร้างโปรโตไทป์แล้วถึง 6 รุ่นด้วยกัน ทำให้ OPPO Find N สามารถมอบอีกขั้นของรูปแบบสมาร์ทโฟนแบบจอพับ พร้อมมอบประสบการณ์ใหม่ๆ ให้แก่ผู้ใช้งาน ทั้งผู้ใช้งานที่เคยและไม่เคยใช้สมาร์ทโฟนแบบจอพับได้
Pete Lau, Chief Product Officer of OPPO กล่าวว่า “รูปแบบสมาร์ทโฟนใหม่นี้ ถือเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นของวงการเทคโนโลยีสมาร์ทโฟน โดย OPPO ใช้เวลาและความพยายามอย่างมากในการสรรหาวิธีการต่างๆ ที่สามารถสร้างสมาร์ทโฟนจอพับที่มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น เราจึงได้ทำการทดลองมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ปัจจัยด้านรูปแบบ ดีไซน์การพับ วัสดุของจอแสดงผล และอัตราส่วนด้านภาพ เพื่อสร้างอุปกรณ์ใหม่ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้มากขึ้นด้วย OPPO Find N โดยเราหวังว่าจะสามารถเปลี่ยนมุมมองด้านรูปแบบของสมาร์ทโฟน พร้อมมุ่งมั่นที่จะมอบสมาร์ทโฟนจอพับไปสู่ผู้คนที่กว้างขวางมากยิ่งขึ้น”
นำความแปลกใหม่สู่ความจำเป็นต่อการใช้งาน
OPPO Find N สามารถมอบทั้งเทคโนโลยีอันล้ำสมัยและคุณภาพการใช้งานขั้นสุด เพื่อมอบประสบการณ์ในการใช้งานสมาร์ทโฟนจอพับที่ดียิ่งขึ้น โดยเมื่อพับสมาร์ทโฟน ตัวเครื่องจะมีขนาดกะทัดรัด แต่อัดแน่นไปด้วยฟังก์ชันมากมาย และเมื่อกางออก ตัวเครื่องก็จะมอบหน้าจอแสดงผลที่เต็มตา พร้อมดื่มด่ำได้เต็มอรรถรส
Landscape Ratio
OPPO Find N ถือเป็นสมาร์ทโฟนจอพับเครื่องแรกที่มีอัตราส่วนของหน้าจอด้านในตัวเครื่องเป็นแบบแนวนอน (landscape) โดยผู้ใช้งานสามารถปรับเปลี่ยนการใช้หน้าจอได้อย่างสะดวกสบายไร้รอยต่อ ระหว่างหน้าจอด้านในขนาด 7.1 นิ้ว และหน้าจอด้านนอกขนาด 5.49 นิ้ว มอบประสบการณ์การรับชมแบบเต็มตา หมดห่วงเรื่องขนาดของหน้าจอและประสิทธิภาพการใช้งาน โดยหน้าจอด้านในมีอัตราส่วนของภาพ 8.4:9 ซึ่งเมื่อกางออก หน้าจอด้านในจะเปลี่ยนเป็นหน้าจอแบบแนวนอน (landscape mode) ได้ในทันที มอบประสบการณ์การรับชม เล่นเกม หรืออ่านหนังสือ ได้อย่างสะดวกสบาย โดยไม่จำเป็นต้องหมุนตัวเครื่องเพิ่มเติม และเมื่อพับสมาร์ทโฟน หน้าจอจะมีอัตราส่วนของภาพที่ 18:9 มอบประสบการณ์การใช้สมาร์ทโฟนที่คุ้นเคยและเต็มตา พร้อมสามารถใช้งานอย่างง่ายดายได้ด้วยมือเดียว
Flexion Hinge หรือบานพับ
Flexion Hinge หรือบานพับของ OPPO Find N ประกอบด้วยส่วนประกอบมากมายถึง 136 ชิ้น ซึ่งมีความละเอียดสูงถึง 0.01 มม. มอบประสบการณ์การใช้งานบานพับที่ราบรื่นเสมือนข้อต่อของร่างกายมนุษย์ โดย OPPO ดีไซน์บานพับแบบ water-drop hinge ในการแก้ไข pain point ที่ใหญ่ที่สุดของอุปกรณ์แบบพับ ด้วยการขยายมุมของจอแสดงผลที่ใช้ในการพับ พร้อมสร้างบัฟเฟอร์รองรับเมื่อพับจอแสดงผล ทำให้หน้าจอมีรอยพับที่สามารถสังเกตุเห็นได้ลดลงถึง 80% อ้างอิงข้อมูลจาก TUV เมื่อเทียบกับอุปกรณ์แบบพับรุ่นอื่นๆ นอกจากนี้ การออกแบบนี้ยังช่วยลดช่องว่างระหว่างจอแสดงผลเมื่อพับจอ อีกทั้งยังช่วยมอบรูปลักษณ์แบบไร้รอยต่อและช่วยป้องกันรอยขีดข่วนของจอแสดงผลด้านในได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
FlexForm Mode
โครงสร้างของ Cam และสปริงภายในบานพับ (Flexion Hinge) อันล้ำสมัย จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถกางหน้าจอแสดงผลได้อย่างอิสระระหว่าง 50-120 องศา และเมื่อรวมกับฟีเจอร์ด้านซอฟต์แวร์มากมายในตัวเครื่อง ทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ประโยชน์จากหน้าจอแสดงผลแบบพับได้มากมาย โดย FlexForm Mode บน OPPO Find N จะช่วยให้ผู้ใช้ปรับหน้าจอของอุปกรณ์ได้อย่างอิสระ เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานในสถานการณ์ที่หลากหลาย
OPPO ได้ปรับแต่งอินเทอร์เฟซสำหรับการใช้งาน เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพในแอปพลิเคชันต่างๆ ที่รองรับได้ดีมากยิ่งขึ้น เช่น แอปเล่นเพลง โน้ตสำหรับบันทึก และกล้อง ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้งานสามารถใช้โน้ตสำหรับบันทึก ด้วยการเปลี่ยน OPPO Find N เป็นโน้ตบุ๊กขนาดเล็กได้ เพราะ OPPO Find N สามารถวางตั้งได้อย่างอิสระด้วยมุมการพับต่างๆ ของหน้าจอ ทำให้ผู้ใช้สามารถจดบันทึกได้โดยไม่จำเป็นต้องถืออุปกรณ์ นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังสามารถเป็นขาตั้งกล้องเองได้อีกด้วย ไม่ว่าผู้ใช้งานจะถ่ายภาพแบบ time-lapse ด้วยความละเอียด 4K HD, วิดีโอคอล และประชุมออนไลน์ ก็สามารถทำได้อย่างสะดวกสบายแบบไม่ต้องจับถือ
Serene Display
ด้วย Serene Display ที่มีถึง 12 เลเยอร์จาก OPPO ทำให้หน้าจอมีความทนทานและมีการป้องกันที่ดีเยี่ยม ซึ่งเมื่อทำงานร่วมกับ Flexion Hinge หรือบานพับแล้ว ก็ยิ่งทำให้สามารถมอบประสบกาณ์การพับหน้าจอที่ราบรื่น โดยจอแสดงผลประกอบด้วยเลเยอร์ของ Flexion UTG (กระจกบางพิเศษ) ที่บางเพียง 0.03 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับกระจกสำหรับสมาร์ทโฟนทั่วไปจะหนาถึง 0.6 มิลลิเมตร ทำให้หน้าจอสามารถโค้งงอได้อย่างง่ายดาย พร้อมมีความทนทานอย่างมาก ซึ่งจากการตรวจสอบโดย TUV หน้าจอ Serene Display จะสามารถพับได้มากกว่า 200,000 ครั้ง พร้อมคงประสบการณ์การพับที่ราบรื่นและไร้รอยพับบนหน้าจอ
สำหรับจอแสดงผลด้านในมีการใช้หน้าจอแสดงผลแบบ LTPO พร้อมเทคโนโลยี dynamic refresh rate อัจฉริยะที่สามารถปรับรีเฟรชเรทระหว่าง 1-120 Hz ได้ ด้วยการอิงจากสิ่งที่ผู้ใช้งานกำลังรับชม นอกจากนี้จอแสดงผลด้านในยังมีอัตราการตอบสนองต่อการสัมผัสที่สูงถึง 1,000 Hz
OPPO มีการปรับแต่งค่าความสว่างและการปรับเทียบสีระหว่างจอแสดงผลทั้งด้านในและด้านนอก เพื่อมอบประสบการณ์การรับชมที่ราบรื่นให้แก่ผู้ใช้งาน โดยหน้าจอทั้งสองสามารถปรับความสว่างอัตโนมัติได้ถึง 10,240 ระดับ พร้อมค่าความสว่างสูงสุดถึง 1,000 nits มอบความสะดวกสบายในการรับชมในทุกสภาพแสง
นวัตกรรมด้านซอฟต์แวร์
ประสบการณ์ซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์แบบพับที่ยอดเยี่ยม ถือเป็นอีกขั้นของรูปแบบสมาร์ทโฟนแบบใหม่นี้ พร้อมมอบประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้แก่ผู้ใช้งานได้ โดยจอแสดงผลด้านในขนาด 7.1 นิ้วของ OPPO Find N มีพื้นที่หน้าจอกว้างกว่าจอแสดงผลมาตรฐานขนาด 6.5 นิ้ว ถึง 60% มอบประสบการณ์การรับชมที่เต็มตาสมจริงมากยิ่งขึ้น พร้อมสร้างโอกาสในการใช้งานนวัตกรรมด้านซอฟต์แวร์ในหลากหลายสถานการณ์มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การทำงานหลายอย่างพร้อมกัน หรือ การทำงานแบบมีประสิทธิภาพ
เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเมื่อกางหน้าจอออก เสมือนใช้แท็บเล็ตขนาดใหญ่ขึ้น OPPO Find N จึงได้รวบรวมการโต้ตอบใหม่ๆ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งานหลายอย่างพร้อมกันได้ง่ายมากขึ้น โดยเมื่อใช้งานแอปพลิเคชัน ผู้ใช้สามารถแบ่งหน้าจอออกเป็นสองส่วนได้ด้วยการใช้สองนิ้วปัดลงตรงกลางอุปกรณ์ หรือใช้สี่นิ้วบีบตรงหน้าจอเพื่อเปลี่ยนหน้าต่างแอปแบบเต็มจอให้เป็นหน้าต่างแบบลอยได้ นอกจากนี้ OPPO Find N ยังรองรับการโต้ตอบแบบมาตรฐาน เช่น ผู้ใช้งานสามารถกดค้างบนไอคอนที่รองรับ เพื่อลากไอคอนไปมา พร้อมใช้งานแอปพลิเคชันหลายแอปไปพร้อมกันขณะแบ่งจอบนหน้าจอหลักได้
นอกจากนี้ ซอฟต์แวร์ของ OPPO Find N ยังได้รับการปรับแต่งให้เหมาะสมต่อการใช้งาน ให้ผู้ใช้สามารถใช้งานสลับระหว่างสองหน้าจอไปมาได้อย่างราบรื่นและเป็นธรรมชาติ โดยเมื่อกางออก การแสดงผลจะย้ายจากหน้าจอด้านนอกไปยังหน้าจอหลักด้านในได้อย่างราบรื่น และเมื่อต้องการพับหน้าจอ ผู้ใช้งานสามารถปัดขึ้นที่หน้าจอด้านนอก เพื่อให้สามารถใช้ฟังก์ชันเดิมบนหน้าจอด้านนอกได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บนหน้าจอด้านในที่มีขนาดใหญ่ขึ้น OPPO ยังมอบรูปแบบของคีย์บอร์ดที่สามารถปรับแต่งได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การแบ่งคีย์บอร์ดบนหน้าจอ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถใช้คีย์บอร์ดได้สองมือพร้อมกัน พร้อมมอบการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
กล้อง
OPPO Find N มาพร้อมกล้องระดับแฟล็กชิพถึง 3 ตัว มอบการถ่ายภาพและวิดีโอคุณภาพสูง ประกอบด้วยเซ็นเซอร์หลัก Sony IMX 766 ความละเอียด 50MP, เลนส์ ultra-wide 16MP และ เลนส์ telephoto 13MP อีกทั้งยังมีกล้องหน้าทั้งบนหน้าจอด้านในและด้านนอกอีกด้วย โดยเมื่อผสมผสานรูปแบบสมาร์ทโฟนใหม่และความสามารถของ FlexForm Mode ทำให้ OPPO Find N สามารถมอบประสบการณ์การใช้กล้องที่แปลกใหม่ให้แก่ผู้ใช้งานจากซอฟต์แวร์ที่ปรับแต่งเอง พร้อมใช้ประโยชน์จากรูปแบบสมาร์ทโฟนจอพับได้อย่างเต็มที่
Flexion Hinge หรือบานพับของ OPPO Find N ทำให้อุปกรณ์สามารถใช้งานเป็นขาตั้งกล้องเองได้ พร้อมกลายเป็นแก็ตเจ็ตขนาดกะทัดรัดและพกพาง่าย สะดวกในการถ่ายภาพในสถานการณ์ต่างๆ เช่น FlexForm Mode จะทำให้ผู้ใช้สามารถถ่าย time-lapse คุณภาพระดับ 4K HD ได้อย่างง่ายดายและไม่จำเป็นต้องจับถือด้วยการพับหน้าจอระหว่าง 50-120 องศา นอกจากนี้ time-lapse mode ยังประกอบไปด้วยเทมเพลตถึง 3 แบบ ได้แก่ light trails, night sky และ sun & clouds ที่ผู้ใช้สามารถปรับการตั้งค่าการภาพถ่ายและวิดีโอให้เหมาะสมในคลิกเดียว เพื่อการถ่ายภาพดาราศาสตร์ที่น่าดึงดูดและสร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น อีกทั้งเมื่อพับหน้าจอในมุมที่ต่ำกว่า 60 องศา กล้องจะเลื่อนการแสดงตัวอย่างภาพถ่ายไปที่หน้าจอด้านล่างโดยอัตโนมัติ เพื่อให้คุณตั้งมุมกล้องในการถ่ายภาพได้ง่ายขึ้น
โดยอินเทอร์เฟซการแบ่งจอสำหรับการภาพถ่ายแบบใหม่ บน OPPO Find N จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้จอแสดงผลด้านในที่มีขนาดใหญ่เต็มตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการใช้หน้าจออีกฝั่งหนึ่งในการถ่ายภาพ และใช้ฝั่งที่เหลือในการดู แชร์ หรือลบรูปภาพล่าสุดที่คุณถ่ายได้ นอกจากนี้ เมื่อผู้ใช้ถ่ายภาพด้วยกล้องหลักขณะกางหน้าจอ ผู้ใช้จะสามารถใช้งานได้ทั้งจอแสดงผลด้านในและด้านนอก เพื่อให้ทั้งผู้ใช้และตัวแบบสามารถดูภาพตัวอย่างก่อนถ่ายไปพร้อมๆ กันได้
นอกจากนี้ ด้วยกล้องหลังที่ทรงพลังมากขึ้น ยังทำให้ผู้ใช้สามารถเซลฟี่ด้วยภาพคุณภาพสูงได้ ด้วยการใช้หน้าจอด้านนอกในการดูตัวอย่างภาพถ่าย อีกทั้ง ผู้ใช้งานยังสามารถเซลฟี่ด้วยการใช้ท่าทางของมือได้ ช่วยให้ผู้ใช้เซลฟี่ได้อย่างง่ายดายแบบไม่หลุดเฟรมและไม่ต้องกดปุ่มชัตเตอร์
การออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์
OPPO Find N ถือเป็นสมาร์ทโฟนจอพับรุ่นแรกที่มีดีไซน์ที่ขอบทั้งสองข้างของตัวเครื่องด้านนอกเป็นแบบโค้ง 3 มิติ เพิ่มความสบายในการจับและมอบรูปลักษณ์แบบบางเฉียบ โดยฝาหลังและโมดูลกล้องด้านหลัง มีดีไซน์แบบ fluid curve เหมือนกับดีไซน์ของ OPPO Find X3 Pro 5G ซึ่งเส้นโค้งที่เพรียวบางของตัวกล้อง จะช่วยลดความสูงของโมดูลกล้องได้ สำหรับฝาหลังมีการใช้ Gorilla Glass Victus ผสมผสานกับเพลตกล้องเซรามิก มอบสัมผัสแบบพรีเมียมสง่างาม
โดย OPPO Find N มาพร้อมสีสันที่โดดเด่นถึง 3 สีด้วยกัน ได้แก่ สี Black ที่มีการผสมผสานระหว่างกระจกแบบด้านที่มีประกายระยิบระยับ และเทคนิคการเคลือบฟิล์มแบบใหม่ มอบเอฟเฟกต์บนชั้นเบสที่มีความระยิบระยับพรีเมียม สำหรับสี White ได้รับแรงบันดาลใจจากการเคลือบเซรามิกสีขาวด้วยกระจกเงา พร้อมพื้นผิวที่เต็มไปด้วยรายละเอียดอันประณีต ซึ่งมีความเข้ากันกับเพลตกล้องเซรามิก มอบรูปลักษณ์ที่มีความสมดุลเข้ากันได้เป็นอย่างดี สำหรับสี Purple เป็นสีที่ชวนให้ระลึกถึงขวดน้ำหอมสุดหรู ซึ่งสร้างจากชั้นฟิล์มที่ปรับแต่งเองหลากหลายชั้น ในการสร้างเอฟเฟ็กต์ของแสง และสร้างเงาจากพื้นผิวแบบโปร่งใส
ประสิทธิภาพการใช้งาน
OPPO Find N มาพร้อม Qualcomm® Snapdragon™ 888 Mobile Platform พร้อมด้วย LPDDR5 RAM สูงสุดถึง 12 GB และ ROM UFS 3.1 ถึง 512 GB รวมถึงมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4,500 mAh สามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้ตลอดทั้งวัน พร้อมทั้ง 33W SuperVOOC Flash Charge ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ถึง 55% ใน 30 นาที และ 100% ใน 70 นาที นอกจากนี้ยังมาพร้อม 15W AirVOOC Wireless Charging ที่รองรับมาตรฐานระดับ Qi และ 10W Reverse Wireless Charging อีกด้วย อีกทั้ง OPPO Find N ยังมาพร้อมการสแกนลายนิ้วมือด้านข้างบนปุ่มเปิดปิดหน้าจอ รวมถึง ลำโพงแบบคู่ และ Dolby Atmos มอบประสบการณ์เสียงกระหึ่มสมจริงยิ่งขึ้น
การวางจำหน่าย
OPPO Find N พร้อมวางจำหน่ายในประเทศจีน ตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2564ขอขอบคุณ – Sanook รวมโปรเน็ตดีแทคสุดแรง คลิก