by Sokid Munkong | Jan 30, 2022 | Uncategorized
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ได้มีการประกาศอัปเดตความสามารถใหม่ในฟีเจอร์แชตลับที่เข้ารหัส End-to-End บน Messenger เพิ่มความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวให้กับผู้ใช้ และความสามารถใหม่ ๆ อีกมากมาย
ความสามารถใหม่ในแชตลับที่เป็นไฮไลต์ที่เพิ่มมาในครั้งนี้ ก็คงจะไม่พ้นการแจ้งเตือน หากผู้ที่สนทนาด้วยมีการถ่ายภาพหน้าจอหรือแคปหน้าจอ เพื่อเพิ่มความเป็นความลับตามวัตถุประสงค์ของฟีเจอร์แชตลับนี้
นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มความสามารถการโทรเสียง โทรวิดีโอ สามารถทำเป็นแชตกลุ่มลับได้ด้วย รวมถึงความสามารถอื่น ๆ ที่มีในแชตแบบปกติ เช่น การส่ง GIF และสติกเกอร์ ส่งรีแอกชัน การตอบกลับ การแสดงสัญลักษณ์หากผู้สนทนาพิมพ์อยู่ การส่งต่อข้อความ บันทึกไฟล์สื่อ (รูป/วิดีโอ) และการแก้ไขวิดีโอ
ทั้งนี้สำหรับฟีเจอร์การแจ้งเตือนการถ่ายภาพหน้าจอยังอยู่ในระหว่างการทยอยปล่อยให้ผู้ใช้ได้ใช้งานกัน ทำให้บางคนจะยังไม่เห็นฟีเจอร์นี้ แต่ฟีเจอร์อื่น ๆ บางฟีเจอร์สามารถใช้งานได้แล้ว
ขอขอบคุณ – Sanook
รวมโปรเน็ตดีแทคสุดแรง คลิก
#โปรเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีแทค #สมัครเน็ตดีแทค
by Sokid Munkong | Jan 29, 2022 | Uncategorized
HUAWEI P50 PRO
HUAWEI P50 Pro ที่นำมาเปิดตัวในไทยครั้งนี้ จะมาพร้อมกับหน้าจอ OLED ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ รองรับรีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz มีขอบซ้ายขวาโค้งมน เพื่อเพิ่มความหรูหรา อีกทั้งยังมี Touch Sampling Rate ที่สูงถึง 300Hz เลยทีเดียว
โดย HUAWEI P50 Pro มีกล้องหลังทั้งหมด 4 ตัว ประกอบด้วยเซ็นเซอร์หลักความละเอียด 50MP มีระบบกันสั่น OIS, กล้อง Monochrome ความละเอียด 40MP, กล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 13MP และกล้อง Telephoto ความละเอียด 64MP มีกันสั่น OIS ซูม Optical ได้ 3.5x และ Digital 200x (เริ่มนับจาก 0.5x)
นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี XD Optics และหน่วยประมวลผลสำหรับถ่ายภาพ XD Fusion Pro เพื่อช่วยขับประสิทธิภาพการถ่ายรูปในสภาวะแสงต่างๆ ได้อย่างเต็มที่
ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ขนาด 4360 mAh รองรับระบบชาร์จไวทั้งแบบมีสาย 66W และแบบไร้สายที่ 50W
สเปค HUAWEI P50 PRO
- หน้าจอ OLED ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรท 120Hz
- CPU : Snapdragon 888 4G / Kirin 9000 4G
- GPU : Adreno 660 / Mali-G78
- RAM : 8GB / 12GB
- ความจุ : 128GB / 256GB / 512GB รองรับ NM memory card
- กล้องหลัง 4 ตัว
– กล้องหลักความละเอียด 50MP (f/1.8), OIS
– กล้องโมโนโครมความละเอียด 40MP (f/1.6)
– กล้อง Ultrawide ความละเอียด 13MP (f/2.2)
– กล้อง Telephoto ความละเอียด 64MP (f/3.5), กันสั่น OIS - กล้องหน้า : 13MP (f/2.4)
- การเชื่อมต่อ : WiFi dual-band 802.11 a/b/g/n/ac/ax, 2 x 2 MIMO, BT 5.2, NFC
- เซนเซอร์ : Fingerprint sensor (ใต้จอ), Gravity sensor, Hall sensor, Gyro, compass, Ambient light sensor, Proximity light sensor, Camera laser focus sensor, Color temperature sensor
- กันน้ำ IP68
- ระบบเสียง : ลำโพงสเตอรีโอ, ระบบเสียง HUAWEI Histen, ไม่มีรูหูฟัง 3.5 มม.
- แบตเตอรี่ : 4360 mAh รองรับชาร์จไวมีสาย 66W, ชาร์จไวไร้สาย 50W
- ระบบ HarmoyOS 2
HUAWEI P50 POCKET
มาถึงมือถือจอพับตลับแป้งอย่าง HUAWEI P50 Pocket กันบ้าง โดยเมื่อกางเครื่องออกแล้ว มือถือรุ่นนี้จะมีหน้าจออยู่ที่ 6.9 นิ้ว ใช้พาแนลจอแบบ OLED ความละเอียด Full HD+ รองรับ HDR10 รีเฟรชเรท 120Hz และ Touch Sampling Rate 300Hz เหมือนกับ P50 Pro บนสัดส่วน 21.9
กล้องหลังของ HUAWEI P50 Pocket ถือว่าแทบจะมาในระดับเดียวกับ P50 Pro เลย มีกล้องหลัง 3 ตัว ได้แก่ เซ็นเซอร์หลักความละเอียด 40MP, กล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 13MP และกล้องตัวสุดท้ายเป็น Hyperpectrum ความละเอียด 32MP ที่จะเข้ามาช่วยให้สีสันของผิวแสดงออกมาอย่างแม่นยำในโหมด Portrait รวมถึงถ่ายภาพในที่มืดได้แบบดีกว่าเดิม
สเปค HUAWEI P50 POCKET
- หน้าจอพับพาเนล OLED ขนาด 6.9 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2790 x 1188) รีเฟรชเรต 120Hz
- หน้าจอด้านนอก OLED ขนาด 1.04 นิ้ว ความละเอียด 340 x 340
- CPU : Snapdragon 888 4G
- RAM : 8GB / 12GB
- ความจุ : 256GB / 512GB รองรับ NM memory card 256GB
- กล้องหลัง 3 ตัว
– กล้องหลัก 40MP (f/1.8)
– กล้อง Ultrawide 13MP (f/2.2)
– กล้อง Hyperpectrum 32MP (f/1.8) - กล้องหน้า : 10MP (f/2.2)
- การเชื่อมต่อ : 4G, WiFi 2.4 GHz / 5 GHz 802.11 a/b/g/n/ac/ax, 2×2 MIMO, BT 5.2, NFC
- เซนเซอร์ : Fingerprint sensor (ด้านข้าง), Hall sensor, Barometer, Gyro, Compass, Ambient light sensor, Proximity sensor
- แบตเตอรี่ 4000 mAh รองรับชาร์จไว 40W
- ระบบ HarmonyOS 2
- ขนาด / น้ำหนัก : ตอนกางเครื่อง 170 x 75.5 x 7.2 มม., ตอนพับเครื่อง 87.3 x 75.5 x 15.2 มม. / 190 กรัม
ราคาและวันวางจำหน่าย
โดย HUAWEI P50 Pro วางจำหน่ายในประเทศไทยที่ 33,990 บาท มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ ทอง Cocoa Gold และดำทอง Golden Black พร้อมโปรโมชั่นพรีออเดอร์สุดคุ้ม เมื่อจองที่ HUAWEI Experience Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ รับฟรีไปเลยของแถมตามรูปภาพด้านล่าง และพิเศษ สำหรับลูกค้า AIS และ TrueMove H สามารถเป็นเจ้าของ P50 Pro ได้ในราคาเริ่มต้นเพียง 9,990 บาทเท่านั้น เมื่อซื้อพ่วงแพ็กเกจรายเดือน
ส่วน HUAWEI P50 Pocket จะมีวางจำหน่ายทั้งหมด 2 เวอร์ชั่น ได้แก่รุ่นธรรมดา เคาะราคา 46,990 บาท และรุ่น Premium Edition ราคา 57,990 บาท พร้อมโปรโมชั่นพรีออเดอร์สุดคุ้ม เมื่อจองที่ HUAWEI Experience Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ เหมือนกับ P50 Pro และพิเศษเหมือนเช่นเคย สำหรับลูกค้า AIS และ TrueMove H สามารถเป็นเจ้าของ P50 Pocket ได้ในราคาเริ่มต้น 20,990 บาท เมื่อซื้อพ่วงแพ็กเกจรายเดือน
ขอขอบคุณ – Droidsands
รวมโปรเน็ตดีแทคสุดแรง คลิก
#โปรเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีแทค #สมัครเน็ตดีแทค
by Sokid Munkong | Jan 28, 2022 | Uncategorized
วันนี้ Apple ปล่อย iOS 15.4, macOS Monterey 12.3 และ iPadOS 15.4 เวอร์ชั่นเบต้าสำหรับนักพัฒนาเพื่อให้นักพัฒนาได้ทดสอบกัน เราสรุปอัพเดทสำคัญๆ มาไว้ให้ที่นี่ค่ะ
iOS 15.4
– สามารถใช้งาน FaceID ได้ในขณะที่สวมหน้ากากอนามัย
– อิโมจิใหม่ๆ อาทิ ทำมือเป็นรูปหัวใจ, กัดริมฝีปาก, หญิงตั้งครรภ์, ชายตั้งครรภ์ และอีกมากมาย
– สามารถคัดลอกข้อความจากสิ่งของโดยใช้กล้องในขณะใช้งานแอป Notes และ Reminders
macOS Monterey 12.3 และ iPadOS 15.4 สามารถใช้งาน Universal Control ได้แล้ว
การเริ่มใช้งาน Universal Control
1. เมื่อเชื่อมต่อ Mac และ iPad โดยการเลื่อน pointer มาที่ขอบหน้าจอ คุณจะเห็น icon รูปอุปกรณ์ที่คุณจะใช้เชื่อมต่อ
2. สำหรับ desktop Mac ที่คุณต้องการใช้งาน Universal Control ตลอดเวลา เช่น ต้องการเชื่อมต่อ iMac และ MacBook คุณสามารถตั้งค่าได้ใน Displays System Preferences แต่หากว่าอุปกรณ์ชิ้นที่เป็นอุปกรณ์เคลื่อนที่ อาทิ iPad หรือ MacBook เคลื่อนที่ห่างออกไป หรืออยู่ในโหมด sleep คุณต้องเชื่อมต่อใหม่
3. หากคุณต้องการจัดวางตำแหน่งอุปกรณ์ภายหลังการเชื่อมต่อ คุณสามารถตั้งค่าได้ใน Display Preferences เช่นเดียวกับที่คุณตั้งค่าการเชื่อมต่อกับจอภายนอก ซึ่งจะทำให้ pointer เคลื่อนที่ได้อย่างราบรื่นระหว่างหน้าจอโดยไม่กระโดดขึ้นหรือลง รวมถึงเป็นประโยชน์ในบางสถานการณ์ อาทิ คุณวาง Quick Note ไว้ที่มุมขวาล่าง และไม่ต้องการให้พื้นที่ตรงนี้ถูกใช้งานโดย Universal Control
ขอขอบคุณ – Sanook
รวมโปรเน็ตดีแทคสุดแรง คลิก
#โปรเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีแทค #สมัครเน็ตดีแทค
by Sokid Munkong | Jan 27, 2022 | Uncategorized
มือถือซีรีส์ Redmi Note 11 เปิดตัวในจีนไปตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคมปี 2021 ด้วยจุดเด่นที่มากับสเปคจัดเต็มในราคาเบา ๆ ซึ่งล่าสุดมือถือซีรีส์นี้ก็ได้ฤกษ์มาเปิดตัวในบ้านเราแล้ว โดยมีทั้ง Redmi Note 11, Redmi Note 11s, Redmi Note 11 Pro, และ Redmi Note 11 Pro 5G โดยรุ่นที่วางขายในบ้านเราจะมีสเปคแตกต่างไปจากรุ่นที่ขายในจีนนะครับ แต่รับรองว่ายังไง ๆ ก็มาแบบจัดหนักจัดเต็มแน่นอน
REDMI NOTE 11
Redmi Note 11 ใช้หน้าจอแบบ AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด FHD+ แสดงผลได้คมชัดสีสันสดใส พร้อมรีเฟรชเรท 90Hz ลื่นปรื๊ด ๆ บอกเลยว่ามือถือราคาไม่ถึง 7,000 บาท แต่ได้หน้าจอสเปคขนาดนี้ ไม่ใช่จะหากันง่าย ๆ
สเปคก็แรงพอที่จะรองรับการใช้งานในปัจจุบันได้สบาย ๆ ด้วยชิป Snapdragon 680, RAM มีให้เลือก 2 ขนาด คือ 4GB และ 6GB มีความจุในตัวอยู่ที่ 128GB จะใช้เล่นเน็ต ดูหนังความละเอียดสูง หรือเล่นเกมกราฟิกจัด ๆ ได้แบบไม่มีติดขัด แบตเตอรี่ให้มา 5000 mAh แถมยังรองรับระบบชาร์จไว 33W สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0% – 100% ได้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น
กล้องหลังจัดเต็มเกินราคา ให้มาถึง 4 ตัวประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียดสูง 50MP + กล้อง Ultrawide ความละเอียด 8MP + กล้อง Macro ความละเอียด 2MP + กล้องจับความลึก 2MP และกล้องเซลฟี่ 13MP โดยโหมดถ่ายรูปต่าง ๆ ก็มาแบบครบครันทั้งโหมด Pro, Portrait, Night Mode ฯลฯ รองรับการถ่ายวิดีโอสูงสุดที่ 1080p 60fps (วิดีโอเซลฟี่ได้ที่ 1080p 30fps)
สเปค REDMI NOTE 11
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรท 90Hz
- CPU : Snapdragon 680
- RAM : 4GB / 6GB (รองรับ Memory Extension ยืมความจุมาเติม RAM)
- ความจุ (UFS 2.2) : 128GB
- กล้องหลัง 4 ตัว
– กล้องหลักความละเอียด 50MP
– กล้อง Ultrawide ความละเอียด 8MP
– กล้อง Macro ความละเอียด 2MP
– กล้องจับความลึก 2MP - กล้องหน้า : 13MP
- ระบบเสียง : ลำโพงสเตอรีโอ, รูหูฟัง 3.5 มม.
- มาตรฐานกันน้ำ : IP53
- แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับชาร์จไว 33W
- ระบบ Android 11 ครอบด้วย MIUI 13
- สีที่วางจำหน่าย : Graphite Gray, Star Blue, Twilight Blue
REDMI NOTE 11S
ต่อด้วยรุ่น Redmi Note 11s ที่มีสเปคดุกว่ารุ่น Redmi Note 11 พอสมควร โดยมือถือรุ่นนี้มากับหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว รีเฟรชเรท 90Hz ดีไซน์ DotDisplay เจาะรูสำหรับวางกล้องเซลฟี่ไว้ตรงกลางด้านบน แถมยังทนทานรอยขีดข่วนด้วย Gorilla Glass อีก
สเปครองรับการใช้งานในยุคนี้ได้สบาย ๆ ทุกอย่าง แม้กระทั่งเล่นเกม 3D กราฟฟิคงาม ๆ ก็หายห่วง ด้วยชิป MediaTek Helio G96 และ RAM 8GB กับความจุในตัว 128GB ส่วนแบตเตอรี่ก็อัดมาให้เท่ากันที่ 5000 mAh พร้อมชาร์จไว 33W
กล้องหลัง 4 ตัว ที่จัดเต็มกว่าด้วยกล้องหลักความละเอียดสูงลิ่วถึง 108MP ส่วนกล้องตัวอื่น ๆ สเปคเดียวกันกับรุ่นด้านบน ทั้งกล้อง Ultrawide ความละเอียด 8MP + กล้อง Macro ความละเอียด 2MP + กล้องจับความลึก 2MP และกล้องเซลฟี่ 13MP
สเปค REDMI NOTE 11S
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรท 90Hz
- CPU : Helio G96
- RAM : 8GB (รองรับ Memory Extension ยืมความจุมาเติม RAM)
- ความจุ (UFS 2.2) : 128GB
- กล้องหลัง 4 ตัว
– กล้องหลักความละเอียด 108MP
– กล้อง Ultrawide ความละเอียด 8MP
– กล้อง Macro ความละเอียด 2MP
– กล้องจับความลึก 2MP - กล้องหน้า : 13MP
- ระบบเสียง : ลำโพงสเตอรีโอ, รูหูฟัง 3.5 มม.
- มาตรฐานกันน้ำ : IP53
- แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับชาร์จไว 33W
- ระบบ Android 11 ครอบด้วย MIUI 13
- สีที่วางจำหน่าย : Graphite Gray, Star Blue, Pearl White
REDMI NOTE 11 PRO / REDMI NOTE 11 PRO 5G
สุดท้ายกับรุ่นท้อปอย่าง Redmi Note 11 Pro และ Pro 11 5G ที่จัดสเปคมาให้แบบเต็มเหยียดทั้งหน้าจอแบบ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+, Color gamut DCI-P3 พร้อมรองรับรีเฟรชเรท 120Hz ให้การแสดงผลได้อย่างลื่นไหลสุด ๆ ไปเลย และยังถูกใจเกมเมอร์ด้วย Touch Sampling Rate ที่สูงถึง 360Hz บังคับเกมผ่านหน้าจอสัมผัสได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
สำหรับสเปคของ Redmi Note 11 Pro 5G มากับชิป Snapdragon 695 ส่วน Redminote 11 Pro จะใช้ชิป Helio G96 ซึ่งทั้งคู่จะมากับ RAM แบบ LPDDR4x สูงสุด 8GB พร้อมความจุแบบ UFS 2.2 ขนาด 128GB รองรับ microSD card ได้ถึง 1TB ส่วนแบตเตอรี่ให้มาที่ 5000 mAh คู่กับระบบชาร์จไวถึง 67W ที่ใช้เวลาเพียง 15 นาที ก็ชาร์จได้ถึง 51% กันเลย
กล้องหลังของทั้ง Redmi Note 11 Pro และ Redmi Note 11 Pro 5G ก็จัดเต็มเหมือนเดิมด้วย กล้องหลักความละเอียด 108MP + กล้อง Ultrawide ความละเอียด 8MP + กล้อง Macro ความละเอียด 2MP + กล้องจับความลึก 2MP และกล้องเซลฟี่ 13MP
สเปค REDMI NOTE 11 PRO
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรท 120Hz
- CPU : Helio G96
- RAM : 8GB (รองรับ Memory Extension ยืมความจุมาเติม RAM)
- ความจุ (UFS 2.2) : 128GB
- กล้องหลัง 4 ตัว
– กล้องหลักความละเอียด 108MP
– กล้อง Ultrawide ความละเอียด 8MP
– กล้อง Macro ความละเอียด 2MP
– กล้องจับความลึก 2MP - กล้องหน้า : 13MP
- ระบบเสียง : ลำโพงสเตอรีโอ, รูหูฟัง 3.5 มม.
- มาตรฐานกันน้ำ : IP53
- แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับชาร์จไว 67W
- ระบบ Android 11 ครอบด้วย MIUI 13
- สีที่วางจำหน่าย : Graphite Gray, Polar White, Atlantic Blue, Star Blue
สเปค REDMI NOTE 11 PRO 5G
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรท 120Hz
- CPU : Snapdragon 695
- RAM : 8GB (รองรับ Memory Extension ยืมความจุมาเติม RAM)
- ความจุ (UFS 2.2) : 128GB
- กล้องหลัง 4 ตัว
– กล้องหลักความละเอียด 108MP
– กล้อง Ultrawide ความละเอียด 8MP
– กล้อง Macro ความละเอียด 2MP
– กล้องจับความลึก 2MP - กล้องหน้า : 13MP
- ระบบเสียง : ลำโพงสเตอรีโอ, รูหูฟัง 3.5 มม.
- มาตรฐานกันน้ำ : IP53
- แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับชาร์จไว 67W
- ระบบ Android 11 ครอบด้วย MIUI 13
- สีที่วางจำหน่าย : Graphite Gray, Polar White, Atlantic Blue, Star Blue
ราคาและวันวางจำหน่าย
ราคาของ Redmi Note 11 และ Redmi Note 11s ที่วางขายในบ้านเราก็มีตามนี้เลย
- Redmi Note 11 (4GB / 128GB) : ราคา 6,299 บาท
- Redmi Note 11 (6GB / 128GB) : ราคา 6,999 บาท
- Redmi Note 11s (8GB / 128GB) : ราคา 8,299 บาท
Redmi Note 11 และ Redmi Note 11s ทุกรุ่นจะเริ่มวางจำหน่ายกับร้านค้าที่ร่วมรายการตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป และยังจะได้รับของแถมเป็นกระเป๋าผ้า Redmi Note 11 Series มูลค่า 590 บาท ไปด้วยนะ ส่วนอีก 2 รุ่น Redmi Note 11 Pro และ Pro 5G จะตามมาทีหลัง แต่ราคาจะอยู่ที่เท่าไหร่บ้างต้องมารอดูกันอีกทีครับ
ขอขอบคุณ – droidsans
รวมโปรเน็ตดีแทคสุดแรง คลิก
#โปรเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีแทค #สมัครเน็ตดีแทค
by Sokid Munkong | Jan 26, 2022 | Uncategorized
อย่างที่ทราบกันดีว่า Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 นั้นถือว่าเป็นขุมพลังตัวท็อปของ Qualcomm และหลายค่ายก็เลือกไปใส่ในมือถือของตัวเอง โดนล่าสุดนี้ Evan Blass ได้กมีเปิดเผยว่า Lenovo กำลังจะมีมือถือใหม่ที่มีชื่อรุ่นว่า Halo ออกมา พร้อมกับสเปกที่น่าสนใจไม่เบา
ย้ำไว้ก่อนมือถือรุ่นนี้ไม่ได้มาแทน Legion Duel 2 แต่ออกมาใหม่เลยที่เน้นเรื่องของความรวดเร็วที่หน้าจอ, ชาร์จไฟเร็ว, กล้องสวยมากขึ้นกว่าเดิม โดยมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.67 นิ้วความละเอียด 1080p+ และเป็นแบบ P-OLED มีค่า Refresh ที่ 144 Hz และ ค่าความไวในการสัมผัสหน้าจอที่ 300 Hz ส่วนกล้องหน้าติดตั้งความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
ส่วนกล้องตัวหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล, กล้องมุมกว้าง 13 ล้านพิกเซล และมีกล้อง 2 ล้านพิกเซลช่วย ซึ่งเท่ากับกล้องความละเอียดจะน้อยกว่า Legion Duel 2 แต่มีการออกแบบให้ดูไม่ได้เป็น Gaming Smart phone
ทางด้านแบตเตอรี่มีขนาด 5000 mAh และมีความบางลงกว่า แถมชาร์จไฟไวด้วยกำลัง 68W เลยทีเดียว ด้านขุมพลัง Snapdragon 8 Gen 1 ยังให้ใช้บริการ แต่มี RAM ให้เลือกทั้ง 8/12/16GB ในแบบ LPDDR5 และมีหน่วยความจำในตัว 128 / 256GB แบบ UFS 3.1
กำหนดการเปิดตัวมือถือรุ่นนี้อาจจะเกิดขึ้นในครึ่งหลังของปีนี้ แต่จะเป็นอย่างไรรอติดตามกันต่อไป
ขอขอบคุณ – Sanook
รวมโปรเน็ตดีแทคสุดแรง คลิก
#โปรเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีแทค #สมัครเน็ตดีแทค