Motorola เปิดตัว Moto G Stylus 2022 : จอ 90 Hz, แบตเตอรี่ 5,000 mAh

Motorola เปิดตัว Moto G Stylus 2022 : จอ 90 Hz, แบตเตอรี่ 5,000 mAh

Motorola ได้เปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นที่ 3 ในซีรีส์ Moto G Stylus ซึ่งได้รับการอัปเกรดจากรุ่นที่เปิดตัวเมื่อปี 2021 อย่างชัดเจน ทั้งหน้าจอที่มาพร้อมรีเฟรชเรต 90 Hz และกล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล

Moto G Stylus 2022 นี้ มาพร้อมหน้มจอ LCD ขนาด 6.8 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ สัดส่วน 20:9 โดยมีจุดเด่นที่สามารถเก็บปากกา Stylus ไว้ในตัวเครื่องได้ ซึ่งถึงแม้ว่าจะไม่ถึงระดับพรีเมียมอย่าง S Pen ของ Samsung แต่ก็สามารถรองรับการทำงานได้อย่างหลากหลาย

Motorola Moto G Stylus 2022
Motorola Moto G Stylus 2022
Motorola Moto G Stylus 2022

ในส่วนของกล้องหลังนั้น มีความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เสริมด้วยกล้อง Ultrawide ความละเอียด 8 ล้นพิกเซล เซนเซฮร์วัดระยะ ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล

ในส่วนของการประมวลผลนั้น ได้รับการติดตั้งชิปเซต MediaTek Helio G88 ซึ่งจะทำงานร่วมกับแรม 6 GB ซึ่งเพิ่มขึ้นมาจากรุ่นก่อนที่มีแรม 2 GB

Motorola Moto G Stylus 2022
Motorola Moto G Stylus 2022

สำหรับแบตเตอรี่นั้น มีขนาดใหญ่ขึ้นมาอยู่ที่ 5,000 mAh ซึ่งเพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนที่มี 4,000 mAh และติดตั้งระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบด้วย My UX ของ Motorola

Moto G Styulus 2022 มีด้วยกัน 2 สี คือ Twilight Blue และ Metallic Rose โดยจะวางจำหน่ายที่สหรัฐฯ ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2022 ในราคา 299 เหรียญ หรือประมาณ 9,900 บาท



ขอขอบคุณ – Sanook


รวมโปรเน็ตดีแทคสุดแรง คลิก
facebook

#โปรเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีแทค #สมัครเน็ตดีแทค

“LINE Lite” ประกาศยุติการให้บริการสิ้นเดือนนี้

“LINE Lite” ประกาศยุติการให้บริการสิ้นเดือนนี้

หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า LINE นั้นก็มีแอป LINE Lite ซึ่งรองรับภาษาไทยด้วย และมีเฉพาะบนระบบ Android เพียงแต่ว่าดันไม่มีให้โหลดใน Play Store ไทย แต่ว่าก็มีคนที่รู้จักไปโหลด APK ตาม apkpure, apkmirror มาใช้กัน ซึ่งดันมีจุดเด่นที่ LINE เวอร์ชั่นตัวเต็มไม่มีด้วยคือ

  • สามารถใช้ลงในมือถือเครื่องที่ 2 เพื่อ Login ID เดียวกับเครื่องหลักได้!
  • มีฟีเจอร์ดูรายชื่อผู้อ่านแชทกลุ่มด้วย!

แต่น่าเสียดายเพราะว่า LINE ประกาศจะยุติให้บริการ LINE Lite ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2022 เวลา 10:00 น. (ตามเวลาในประเทศไทย)

ทาง LINE แนะนำให้ผู้ใช้ย้ายไปใช้ LINE เวอร์ชั่นปกติ ซึ่งจะไม่สามารถย้ายประวัติการแชทได้ (และเอาจริง ๆ ย้ายได้เฉพาะผู้ที่ใช้ LINE Lite ที่ไม่ได้ Login ไอดีเดียวกับเครื่องมือถืออื่น เพราะแอป LINE เวอร์ชั่นปกติไม่สามารถ Log in เครื่องมือถือที่สองได้ ซึ่งตรงนี้น่าเสียดายมาก หวังว่า LINE จะหาทางแก้ปัญหาตรงนี้นะครับ มีคนต้องการใช้อยู่)



ขอขอบคุณ – Sanook


รวมโปรเน็ตดีแทคสุดแรง คลิก
facebook

#โปรเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีแทค #สมัครเน็ตดีแทค

วิธีประหยัดแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน Android

ปัญหาเรื่องสมาร์ทโฟนแบตหมดเร็ว เป็นสิ่งที่หลายๆ คนเคยเจอ แน่นอนว่า หากเราใช้งานหนัก และต่อเนื่อง ก็เป็นการยากที่จะทำให้สามารถใช้งานสมาร์ทโฟนได้ไปตลอดทั้งวันที่ยาวนาน ยิ่งสมาร์ทโฟน ที่มีหน้าจอใหญ่ จอสว่าง คมชัด รองรับการใช้แอพพลิเคชั่นที่หลากหลาย ก็ยิ่งกินแบตเตอรี่

istock-842804838

แต่ทั้งนี้ เราก็พอมีวิธี ที่จะช่วยประหยัดการใช้พลังงานอยู่บ้าง เพื่อให้สมาร์ทโฟนระบบแอนดรอยด์ สามารถใช้งานได้นานขึ้น มีเทคนิคดังนี้

เราต้องทราบว่าแบตเตอรี่ของแอนดรอยด์นั้นทำงานอย่างไร นี่เป็นสิ่งแรก ที่ต้องทราบ เนื่องจากสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ ใช้แบตเตอรี่ ลิเธียม ไอออน หรือ ลิเธียม โพลีเมอร์ ทั้งสองแบบนี้ จริง ๆ แล้วก็คือ ลิเธียม ไอออน ทั้งนั้น แบตเตอรี่แบบนี้ เราสามารถจะชาร์จเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ต้องรอให้แบตหมดก่อน แล้วยังไม่จำเป็นต้องชาร์จจนเต็ม 100 ก่อนจะนำออกใช้ด้วย การทำแบบนี้ จะไม่ก่อให้เกิดปัญหาใด ๆ เพราะปัญหามักจะเกิดจากการที่เหลือพลังงานน้อยเกินไปเสียมากกว่า

การใช้วอลล์เปเปอร์สีดำสนิท ช่วยให้ใช้แบตเตอรี่ได้นานขึ้น หรืออาจจะเลือกแบคกราวด์สีเข้มก็ได้ เพราะการใช้สีดำ หรือสีเข้มนั้น กินพลังงานน้อยกว่าภาพที่สีสีสัน หรือหน้าจอที่มีความสว่างมาก

ปิดการทำงาน Google Hotwords นั่นคือ ทำให้โทรศัพท์ ไม่ต้องรับฟังอะไรมาก ให้ไปที่ Google setting แล้วเลือก Voice จากนั้น หน้าถัดไป ให้เลือก OK Google detection ในเมนูนี้ จะเป็นทางเลือกที่ดี สำหรับการประหยัดแบตเตอรี่ แต่ถ้าคุณเป็นแฟน OK Google ก็ให้เลือก From the Google app เพื่อให้แน่ใจว่า อุปกรณ์ของคุณจะฟังเฉพาะเวลาที่คุณอยู่ใน Google app

อัพเดท App อยู่เสมอ เพราะแอพที่ได้รับการพัฒนาหรือปรับปรุงใหม่ มักจะมีคุณสมบัติ ที่ดีกว่า รวมทั้งในเรื่องของเมมโมรี่ และแบตเตอรี่ด้วย การอัพเดทเป็นประจำ ทำให้มั่นใจได้ว่า แอพที่ใช้ เป็นรุ่นที่ดีที่สุด

ใช้ Greenify แอพนี้ จะช่วยพัก แอพที่ไม่ได้ใช้งาน เป็นแอพฟรี ที่ช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้จริง

อย่าปรับแสงแบบอัตโนมัติ การใช้การปรับความสว่างอัตโนมัตินั้น สะดวก แต่เราสามารถปรับเองให้อยู่ในจุดที่เราดูแล้วสบายตาได้ดีกว่า และการปรับอัตโนมัตินั้น ก็กินพลังงานมากเกินความจำเป็น

เลิกใช้ฟังก์ชั่นการเตือนด้วยการสั่น เว้นเสียแต่ว่า มีความจำเป็นจริงๆ การใช้การสั่นนั้น กินพลังงานของโทรศัพท์มากกว่าการใช้เสียง นอกจากนี้ ควรปิด Haptic feedback ด้วย ทั้งการสั่นในตอนพิมพ์ หรือการสัมผัสอื่น ๆ

ตั้งค่า Do Not Disturb หรือ Sleep เป็นตาราง เช่นว่า ตั้ง Sleep ปิด Wi-Fi และ ข้อมูลมือถือ เมื่อไม่ต้องการใช้งาน อาจจะตั้งปิดเสียง ปิดการสั่น หรือการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ในเวลางาน หรือเวลาพักผ่อนก็ได้เช่นกัน โทรศัพท์ส่วนมาก สามารถจะตั้งค่าห้ามรบกวน หรือ Do Not Disturb ได้ตามวัตถุประสงค์การใช้งาน

ไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา อาจจะมีการปิด GPS, Bluetooth, WiFi และ ข้อมูลมือถือบ้างในบางเวลา จะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้

นำเอา Widget ที่ไม่ใช้ออกจากหน้าจอไปบ้าง ไม่จำเป็นต้องแสดงทุก Widget โดยเฉพาะพวกที่ต้องอาศัยการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เช่นการรายงานสภาพอากาศ เป็นต้น การมี Widget ที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน ปรากฏอยู่บนหน้าจอตลอดเวลา นั้นไม่มีประโยชน์ และไม่ช่วยประหยัดพลังงงาน เหลือไว้เฉพาะสิ่งที่ใช้บ่อยเพียงเล็กน้อยก็พอ

ลองหาคุณสมบัติในการประหยัดแบตเตอรี่ ที่อาจจะมีอยู่ในโทรศัพท์แต่ละรุ่น เช่น HTC จะมี Extreme Power Saving Mode ส่วน Samsung ก็มี Ultra Power Saving Mode และ Sony ก็มี STAMINA Mode เป็นต้น

อย่าหลงไปใช้ Auto-Sync ให้ปิดโปรแกรมดังกล่าวลง หากต้องการจะอัพเดทบัญชี Google ก็ค่อยเปิดใช้ ไม่เช่นนั้น จะมีการอัพเดททุก 15 นาที การปิดโปรแกรมนี้ ให้ไปที่ setting และ Google account จากนั้น Turn off auto-sync


ขอขอบคุณ – Sanook


รวมโปรเน็ตดีแทคสุดแรง คลิก
facebook

#โปรเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีแทค #สมัครเน็ตดีแทค

เตือนภัย! อย่ากด SMS แจกอั่งเปาฟรี อาจถูกล้วงข้อมูลได้

เตือนภัย! อย่ากด SMS แจกอั่งเปาฟรี อาจถูกล้วงข้อมูลได้

เพจเฟสบุ๊คตำรวจสอบสวนกลาง เตือน อย่ากด SMS แจกอั่งเปาฟรี ถ้าไม่อยากถูกล้วงข้อมูลส่วนตัว จากกลุ่มมิจฉาชีพที่อาศัยจังหวะเทศกาลตรุษจีน

วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 วันตรุษจีนถือเป็นปีใหม่ของชาวไทยเชื้อสายจีน โดยในวันสำคัญนี้ก็จะมีธรรมเนียม ไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ และไหว้ญาติผู้ล่วงลับ ซึ่งเป็นการปฏิบัติสืบทอดต่อ ๆ กันมา และมากไปกว่านั้นสิ่งที่ลูกหลานรอคอย  คือ การแจกอั่งเปา ที่ผู้ใหญ่จะนำเงินใส่ซองสีแดงแล้วแจกให้กับเด็กๆ ล่าสุดได้มี กลุ่มมิจฉาชีพ ที่อาศัยจังหวะตามเทศกาลต่างๆ ฉวยโอกาสหลอกลวงประชาชน ผ่านการส่ง SMS โดยเพจ ตำรวจสอบสวนกลาง  ได้ออกมาโพสต์เตือนถึงเรื่องนี้โดยระบุว่า…

“ระวังมิจฉาชีพหลอกกดลิงก์”

ในช่วงเทศการตรุษจีนนี้มิจฉาชีพได้มีการเปลี่ยนรูปแบบของคำหลอกลวง โดยชักจูงให้เหยื่อหลงเชื่อซึ่งหลอกว่ามีการ “แจกอั่งเปาฟรี” แล้วส่งลิงก์เพื่อให้เรากรอกข้อมูลส่วนบุคคลต่างๆ หากเราได้รับ sms ในลักษณะดังกล่าวห้ามกดลิงก์โดยเด็ดขาด ให้เรารายงานสแปม หรือกดบล็อกหมายเลขโทรศัพท์ดังกล่าวได้เลย


ขอขอบคุณ – Springnews


รวมโปรเน็ตดีแทคสุดแรง คลิก

#โปรเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีแทค #สมัครเน็ตดีแทค

ใครมีแอปฯนี้ลบด่วน !! ตรวจพบมัลแวร์ที่มาพร้อมแอปชื่อ ‘2FA Authenticator’ บน Google Play Store

ใครมีแอปฯนี้ลบด่วน !! ตรวจพบมัลแวร์ที่มาพร้อมแอปชื่อ ‘2FA Authenticator’ บน Google Play Store

Pradeo บริษัทด้านความปลอดภัยมือถือสำรวจพบแอปพลิเคชันใน Google Play Store ที่ตามชื่อเหมือนจะช่วยให้ผู้ใช้ปลอดภัยมากขึ้น แต่จริง ๆ แล้วตัวแอปกลับแอบปล่อยมัลแวร์ที่แฮกเกอร์ใช้ โดยแอปดังกล่าวมีชื่อว่า ‘2FA Authenticator’

If this app is on your Android phone, delete it immediately - Security firm says to delete this Android app immediately before it cleans out your bank account

2FA หรือที่รู้จักในชื่อ two-factor authentication (การยืนยันตัวตน 2 ขั้นตอน) ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อยืนยันตัวตนของผู้ใช้เพื่อความปลอดภัยที่มากขึ้น แต่แอปพลิเคชัน 2FA Authenticator กลับมีจุดประสงค์ที่แท้จริงคือการติดตั้งมัลแวร์อันตรายที่ชื่อ ‘Vultur’ ลงบนอุปกรณ์ของผู้ใช้

The malware adds permissions you didn't grant-those are on the right-to make it easier to steal your money - Security firm says to delete this Android app immediately before it cleans out your bank account

Vultur จะมุ่งเป้าไปที่แอปบริการทางการเงินเพื่อที่มันจะสามารถขโมยข้อมูลธนาคารรวมถึงเงินของผู้ใช้ ซึ่ง Pradeo แนะนำว่า หากใครเผลอติดตั้งแอปพลิเคชันดังกล่าวลงบนสมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ตของตนเองควรรีบลบแอปนี้ทิ้งทันที

Pradeo ค้นพบว่า 2FA Authenticator จะมีการขออนุญาตผู้ใช้เพื่อเข้าถึงความสามารถบางอย่าง และสามารถเพิ่มสิทธิ์การเข้าถึงต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง เช่น การถ่ายรูปและวิดีโอผ่านกล้องของอุปกรณ์ผู้ใช้, ยกเลิกการล็อกหน้าจอ, สามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้, ทำงานเมื่อเปิดเครื่องแบบอัตโนมัติ หรือการเข้าถึงและใช้งานไบโอเมตริก หรือลายนิ้วมือของผู้ใช้ เป็นต้น

แอป 2FA Authenticator มีความสามารถในการบันทึกทุกสัมผัสที่ผู้ติดตั้งใช้กับอุปกรณ์ ทำให้แฮกเกอร์สามารถทราบถึงพาสเวิร์ดของผู้ใช้ได้

อย่างไรก็ตามหลังจาก Pradeo ได้แจ้งทีม Google Play เกี่ยวกับการค้นพบแอป 2FA Authenticator ที่มาพร้อมมัลแวร์ หลังจากนั้น 15 วันแอปดังกล่าวก็ถูกถอดออกจาก Google Play Store ในวันที่ 27 มกราคมเรียบร้อยแล้ว

แม้ว่าตัวแอปจะถูกถอดออกไปแล้ว แต่ใครที่ติดตั้งแอป 2FA Authenticator ไปแล้ว ตัวแอปจะยังคงค้างอยู่บนเครื่องของคน ๆ นั้น และควรลบทิ้งทันที



ขอขอบคุณ – Sanook


รวมโปรเน็ตดีแทคสุดแรง คลิก

#โปรเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีแทค #สมัครเน็ตดีแทค


Facebook Messenger เตรียมแจ้งเตือนผู้ใช้หากถูกแคปแชต ในห้องแชตลับ

Facebook Messenger เตรียมแจ้งเตือนผู้ใช้หากถูกแคปแชต ในห้องแชตลับ

มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ได้มีการประกาศอัปเดตความสามารถใหม่ในฟีเจอร์แชตลับที่เข้ารหัส End-to-End บน Messenger เพิ่มความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวให้กับผู้ใช้ และความสามารถใหม่ ๆ อีกมากมาย

ความสามารถใหม่ในแชตลับที่เป็นไฮไลต์ที่เพิ่มมาในครั้งนี้ ก็คงจะไม่พ้นการแจ้งเตือน หากผู้ที่สนทนาด้วยมีการถ่ายภาพหน้าจอหรือแคปหน้าจอ เพื่อเพิ่มความเป็นความลับตามวัตถุประสงค์ของฟีเจอร์แชตลับนี้

นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มความสามารถการโทรเสียง โทรวิดีโอ สามารถทำเป็นแชตกลุ่มลับได้ด้วย รวมถึงความสามารถอื่น ๆ ที่มีในแชตแบบปกติ เช่น การส่ง GIF และสติกเกอร์ ส่งรีแอกชัน การตอบกลับ การแสดงสัญลักษณ์หากผู้สนทนาพิมพ์อยู่ การส่งต่อข้อความ บันทึกไฟล์สื่อ (รูป/วิดีโอ) และการแก้ไขวิดีโอ

ทั้งนี้สำหรับฟีเจอร์การแจ้งเตือนการถ่ายภาพหน้าจอยังอยู่ในระหว่างการทยอยปล่อยให้ผู้ใช้ได้ใช้งานกัน ทำให้บางคนจะยังไม่เห็นฟีเจอร์นี้ แต่ฟีเจอร์อื่น ๆ บางฟีเจอร์สามารถใช้งานได้แล้ว



ขอขอบคุณ – Sanook


รวมโปรเน็ตดีแทคสุดแรง คลิก

#โปรเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีแทค #สมัครเน็ตดีแทค

เปิดตัว HUAWEI P50 Pro ราคา 33,990 บาท และ P50 Pocket ราคา 46,990 บาท

เปิดตัว HUAWEI P50 Pro ราคา 33,990 บาท และ P50 Pocket ราคา 46,990 บาท

HUAWEI P50 PRO

HUAWEI P50 Pro ที่นำมาเปิดตัวในไทยครั้งนี้ จะมาพร้อมกับหน้าจอ OLED ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ รองรับรีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz มีขอบซ้ายขวาโค้งมน เพื่อเพิ่มความหรูหรา อีกทั้งยังมี Touch Sampling Rate ที่สูงถึง 300Hz เลยทีเดียว

โดย HUAWEI P50 Pro มีกล้องหลังทั้งหมด 4 ตัว ประกอบด้วยเซ็นเซอร์หลักความละเอียด 50MP มีระบบกันสั่น OIS, กล้อง Monochrome ความละเอียด 40MP, กล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 13MP และกล้อง Telephoto ความละเอียด 64MP มีกันสั่น OIS ซูม Optical ได้ 3.5x และ Digital 200x (เริ่มนับจาก 0.5x)

นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี XD Optics และหน่วยประมวลผลสำหรับถ่ายภาพ XD Fusion Pro เพื่อช่วยขับประสิทธิภาพการถ่ายรูปในสภาวะแสงต่างๆ ได้อย่างเต็มที่

ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ขนาด 4360 mAh รองรับระบบชาร์จไวทั้งแบบมีสาย 66W และแบบไร้สายที่ 50W

สเปค HUAWEI P50 PRO

  • หน้าจอ OLED ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรท 120Hz
  • CPU : Snapdragon 888 4G / Kirin 9000 4G
  • GPU : Adreno 660 / Mali-G78
  • RAM : 8GB / 12GB
  • ความจุ : 128GB / 256GB / 512GB รองรับ NM memory card
  • กล้องหลัง 4 ตัว
    – กล้องหลักความละเอียด 50MP (f/1.8), OIS
    – กล้องโมโนโครมความละเอียด 40MP (f/1.6)
    – กล้อง Ultrawide ความละเอียด 13MP (f/2.2)
    – กล้อง Telephoto ความละเอียด 64MP (f/3.5), กันสั่น OIS
  • กล้องหน้า : 13MP (f/2.4)
  • การเชื่อมต่อ : WiFi dual-band 802.11 a/b/g/n/ac/ax, 2 x 2 MIMO, BT 5.2, NFC
  • เซนเซอร์ : Fingerprint sensor (ใต้จอ), Gravity sensor, Hall sensor, Gyro, compass, Ambient light sensor, Proximity light sensor, Camera laser focus sensor, Color temperature sensor
  • กันน้ำ IP68
  • ระบบเสียง : ลำโพงสเตอรีโอ, ระบบเสียง HUAWEI Histen, ไม่มีรูหูฟัง 3.5 มม.
  • แบตเตอรี่ : 4360 mAh รองรับชาร์จไวมีสาย 66W, ชาร์จไวไร้สาย 50W
  • ระบบ HarmoyOS 2

HUAWEI P50 POCKET

มาถึงมือถือจอพับตลับแป้งอย่าง HUAWEI P50 Pocket กันบ้าง โดยเมื่อกางเครื่องออกแล้ว มือถือรุ่นนี้จะมีหน้าจออยู่ที่ 6.9 นิ้ว ใช้พาแนลจอแบบ OLED ความละเอียด Full HD+ รองรับ HDR10 รีเฟรชเรท 120Hz และ Touch Sampling Rate 300Hz เหมือนกับ P50 Pro บนสัดส่วน 21.9

กล้องหลังของ HUAWEI P50 Pocket ถือว่าแทบจะมาในระดับเดียวกับ P50 Pro เลย มีกล้องหลัง 3 ตัว ได้แก่ เซ็นเซอร์หลักความละเอียด 40MP, กล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 13MP และกล้องตัวสุดท้ายเป็น Hyperpectrum ความละเอียด 32MP ที่จะเข้ามาช่วยให้สีสันของผิวแสดงออกมาอย่างแม่นยำในโหมด Portrait รวมถึงถ่ายภาพในที่มืดได้แบบดีกว่าเดิม

สเปค HUAWEI P50 POCKET

  • หน้าจอพับพาเนล OLED ขนาด 6.9 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2790 x 1188) รีเฟรชเรต 120Hz
  • หน้าจอด้านนอก OLED ขนาด 1.04 นิ้ว ความละเอียด 340 x 340
  • CPU : Snapdragon 888 4G
  • RAM : 8GB / 12GB
  • ความจุ : 256GB / 512GB รองรับ NM memory card 256GB
  • กล้องหลัง 3 ตัว
    – กล้องหลัก 40MP (f/1.8)
    – กล้อง Ultrawide 13MP (f/2.2)
    – กล้อง Hyperpectrum 32MP (f/1.8)
  • กล้องหน้า : 10MP (f/2.2)
  • การเชื่อมต่อ : 4G, WiFi 2.4 GHz / 5 GHz 802.11 a/b/g/n/ac/ax, 2×2 MIMO, BT 5.2, NFC
  • เซนเซอร์ : Fingerprint sensor (ด้านข้าง), Hall sensor, Barometer, Gyro, Compass, Ambient light sensor, Proximity sensor
  • แบตเตอรี่ 4000 mAh รองรับชาร์จไว 40W
  • ระบบ HarmonyOS 2
  • ขนาด / น้ำหนัก : ตอนกางเครื่อง 170 x 75.5 x 7.2 มม., ตอนพับเครื่อง 87.3 x 75.5 x 15.2 มม. / 190 กรัม

ราคาและวันวางจำหน่าย

โดย HUAWEI P50 Pro วางจำหน่ายในประเทศไทยที่ 33,990 บาท มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ ทอง Cocoa Gold และดำทอง Golden Black พร้อมโปรโมชั่นพรีออเดอร์สุดคุ้ม เมื่อจองที่ HUAWEI Experience Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ รับฟรีไปเลยของแถมตามรูปภาพด้านล่าง และพิเศษ สำหรับลูกค้า AIS และ TrueMove H สามารถเป็นเจ้าของ P50 Pro ได้ในราคาเริ่มต้นเพียง 9,990 บาทเท่านั้น เมื่อซื้อพ่วงแพ็กเกจรายเดือน

ส่วน HUAWEI P50 Pocket จะมีวางจำหน่ายทั้งหมด 2 เวอร์ชั่น ได้แก่รุ่นธรรมดา เคาะราคา 46,990 บาท และรุ่น Premium Edition ราคา 57,990 บาท พร้อมโปรโมชั่นพรีออเดอร์สุดคุ้ม เมื่อจองที่ HUAWEI Experience Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ เหมือนกับ P50 Pro และพิเศษเหมือนเช่นเคย สำหรับลูกค้า AIS และ TrueMove H สามารถเป็นเจ้าของ P50 Pocket ได้ในราคาเริ่มต้น 20,990 บาท เมื่อซื้อพ่วงแพ็กเกจรายเดือน



ขอขอบคุณ – Droidsands

รวมโปรเน็ตดีแทคสุดแรง คลิก

#โปรเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีแทค #สมัครเน็ตดีแทค

สาวก Apple เฮ ! iOS 15.4 ให้ผู้ใช้ปลดล็อก Face ID ขณะใส่แมสก์ได้แล้ว

สาวก Apple เฮ ! iOS 15.4 ให้ผู้ใช้ปลดล็อก Face ID ขณะใส่แมสก์ได้แล้ว

วันนี้ Apple ปล่อย iOS 15.4, macOS Monterey 12.3 และ iPadOS 15.4 เวอร์ชั่นเบต้าสำหรับนักพัฒนาเพื่อให้นักพัฒนาได้ทดสอบกัน เราสรุปอัพเดทสำคัญๆ มาไว้ให้ที่นี่ค่ะ

iOS 15.4

– สามารถใช้งาน FaceID ได้ในขณะที่สวมหน้ากากอนามัย

untitled-2

– อิโมจิใหม่ๆ อาทิ ทำมือเป็นรูปหัวใจ, กัดริมฝีปาก, หญิงตั้งครรภ์, ชายตั้งครรภ์ และอีกมากมาย

– สามารถคัดลอกข้อความจากสิ่งของโดยใช้กล้องในขณะใช้งานแอป Notes และ Reminders

macOS Monterey 12.3 และ iPadOS 15.4 สามารถใช้งาน Universal Control ได้แล้ว

การเริ่มใช้งาน Universal Control

1. เมื่อเชื่อมต่อ Mac และ iPad โดยการเลื่อน pointer มาที่ขอบหน้าจอ คุณจะเห็น icon รูปอุปกรณ์ที่คุณจะใช้เชื่อมต่อ

2. สำหรับ desktop Mac ที่คุณต้องการใช้งาน Universal Control ตลอดเวลา เช่น ต้องการเชื่อมต่อ iMac และ MacBook คุณสามารถตั้งค่าได้ใน Displays System Preferences แต่หากว่าอุปกรณ์ชิ้นที่เป็นอุปกรณ์เคลื่อนที่ อาทิ iPad หรือ MacBook เคลื่อนที่ห่างออกไป หรืออยู่ในโหมด sleep คุณต้องเชื่อมต่อใหม่

3. หากคุณต้องการจัดวางตำแหน่งอุปกรณ์ภายหลังการเชื่อมต่อ คุณสามารถตั้งค่าได้ใน Display Preferences เช่นเดียวกับที่คุณตั้งค่าการเชื่อมต่อกับจอภายนอก ซึ่งจะทำให้ pointer เคลื่อนที่ได้อย่างราบรื่นระหว่างหน้าจอโดยไม่กระโดดขึ้นหรือลง รวมถึงเป็นประโยชน์ในบางสถานการณ์ อาทิ คุณวาง Quick Note ไว้ที่มุมขวาล่าง และไม่ต้องการให้พื้นที่ตรงนี้ถูกใช้งานโดย Universal Control

ขอขอบคุณ – Sanook

รวมโปรเน็ตดีแทคสุดแรง คลิก

#โปรเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีแทค #สมัครเน็ตดีแทค

เปิดตัว Redmi Note 11 สมาร์ทโฟนทั้ง 4 รุ่น สเปคคุ้มค่า ราคาเริ่มต้น 6,299 บาท

เปิดตัว Redmi Note 11 สมาร์ทโฟนทั้ง 4 รุ่น สเปคคุ้มค่า ราคาเริ่มต้น 6,299 บาท

มือถือซีรีส์ Redmi Note 11 เปิดตัวในจีนไปตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคมปี 2021 ด้วยจุดเด่นที่มากับสเปคจัดเต็มในราคาเบา ๆ ซึ่งล่าสุดมือถือซีรีส์นี้ก็ได้ฤกษ์มาเปิดตัวในบ้านเราแล้ว โดยมีทั้ง Redmi Note 11, Redmi Note 11s, Redmi Note 11 Pro, และ Redmi Note 11 Pro 5G โดยรุ่นที่วางขายในบ้านเราจะมีสเปคแตกต่างไปจากรุ่นที่ขายในจีนนะครับ แต่รับรองว่ายังไง ๆ ก็มาแบบจัดหนักจัดเต็มแน่นอน

REDMI NOTE 11

Redmi Note 11 ใช้หน้าจอแบบ AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด FHD+ แสดงผลได้คมชัดสีสันสดใส พร้อมรีเฟรชเรท 90Hz ลื่นปรื๊ด ๆ บอกเลยว่ามือถือราคาไม่ถึง 7,000 บาท แต่ได้หน้าจอสเปคขนาดนี้ ไม่ใช่จะหากันง่าย ๆ

สเปคก็แรงพอที่จะรองรับการใช้งานในปัจจุบันได้สบาย ๆ ด้วยชิป Snapdragon 680, RAM มีให้เลือก 2 ขนาด คือ 4GB และ 6GB มีความจุในตัวอยู่ที่ 128GB จะใช้เล่นเน็ต ดูหนังความละเอียดสูง หรือเล่นเกมกราฟิกจัด ๆ ได้แบบไม่มีติดขัด แบตเตอรี่ให้มา 5000 mAh แถมยังรองรับระบบชาร์จไว 33W สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0% – 100% ได้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น

กล้องหลังจัดเต็มเกินราคา ให้มาถึง 4 ตัวประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียดสูง 50MP + กล้อง Ultrawide ความละเอียด 8MP + กล้อง Macro ความละเอียด 2MP + กล้องจับความลึก 2MP และกล้องเซลฟี่ 13MP โดยโหมดถ่ายรูปต่าง ๆ ก็มาแบบครบครันทั้งโหมด Pro, Portrait, Night Mode ฯลฯ รองรับการถ่ายวิดีโอสูงสุดที่ 1080p 60fps (วิดีโอเซลฟี่ได้ที่ 1080p 30fps)

สเปค REDMI NOTE 11

  • หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรท 90Hz
  • CPU : Snapdragon 680
  • RAM : 4GB / 6GB (รองรับ Memory Extension ยืมความจุมาเติม RAM)
  • ความจุ (UFS 2.2) : 128GB
  • กล้องหลัง 4 ตัว
    – กล้องหลักความละเอียด 50MP
    – กล้อง Ultrawide ความละเอียด 8MP
    – กล้อง Macro ความละเอียด 2MP
    – กล้องจับความลึก 2MP
  • กล้องหน้า : 13MP
  • ระบบเสียง : ลำโพงสเตอรีโอ, รูหูฟัง 3.5 มม.
  • มาตรฐานกันน้ำ : IP53
  • แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับชาร์จไว 33W
  • ระบบ Android 11 ครอบด้วย MIUI 13
  • สีที่วางจำหน่าย : Graphite Gray, Star Blue, Twilight Blue

REDMI NOTE 11S

ต่อด้วยรุ่น Redmi Note 11s ที่มีสเปคดุกว่ารุ่น Redmi Note 11 พอสมควร โดยมือถือรุ่นนี้มากับหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว รีเฟรชเรท 90Hz ดีไซน์ DotDisplay เจาะรูสำหรับวางกล้องเซลฟี่ไว้ตรงกลางด้านบน แถมยังทนทานรอยขีดข่วนด้วย Gorilla Glass อีก

สเปครองรับการใช้งานในยุคนี้ได้สบาย ๆ ทุกอย่าง แม้กระทั่งเล่นเกม 3D กราฟฟิคงาม ๆ ก็หายห่วง ด้วยชิป MediaTek Helio G96 และ RAM 8GB กับความจุในตัว 128GB ส่วนแบตเตอรี่ก็อัดมาให้เท่ากันที่ 5000 mAh พร้อมชาร์จไว 33W

กล้องหลัง 4 ตัว ที่จัดเต็มกว่าด้วยกล้องหลักความละเอียดสูงลิ่วถึง 108MP  ส่วนกล้องตัวอื่น ๆ สเปคเดียวกันกับรุ่นด้านบน ทั้งกล้อง Ultrawide ความละเอียด 8MP + กล้อง Macro ความละเอียด 2MP + กล้องจับความลึก 2MP และกล้องเซลฟี่ 13MP

สเปค REDMI NOTE 11S

  • หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรท 90Hz
  • CPU : Helio G96
  • RAM : 8GB (รองรับ Memory Extension ยืมความจุมาเติม RAM)
  • ความจุ (UFS 2.2) : 128GB
  • กล้องหลัง 4 ตัว
    – กล้องหลักความละเอียด 108MP
    – กล้อง Ultrawide ความละเอียด 8MP
    – กล้อง Macro ความละเอียด 2MP
    – กล้องจับความลึก 2MP
  • กล้องหน้า : 13MP
  • ระบบเสียง : ลำโพงสเตอรีโอ, รูหูฟัง 3.5 มม.
  • มาตรฐานกันน้ำ : IP53
  • แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับชาร์จไว 33W
  • ระบบ Android 11 ครอบด้วย MIUI 13
  • สีที่วางจำหน่าย : Graphite Gray, Star Blue, Pearl White

REDMI NOTE 11 PRO / REDMI NOTE 11 PRO 5G

สุดท้ายกับรุ่นท้อปอย่าง Redmi Note 11 Pro และ Pro 11 5G ที่จัดสเปคมาให้แบบเต็มเหยียดทั้งหน้าจอแบบ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+, Color gamut DCI-P3 พร้อมรองรับรีเฟรชเรท 120Hz ให้การแสดงผลได้อย่างลื่นไหลสุด ๆ ไปเลย และยังถูกใจเกมเมอร์ด้วย Touch Sampling Rate ที่สูงถึง 360Hz บังคับเกมผ่านหน้าจอสัมผัสได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

สำหรับสเปคของ Redmi Note 11 Pro 5G มากับชิป Snapdragon 695 ส่วน Redminote 11 Pro จะใช้ชิป Helio G96 ซึ่งทั้งคู่จะมากับ RAM แบบ LPDDR4x สูงสุด 8GB พร้อมความจุแบบ UFS 2.2 ขนาด 128GB รองรับ microSD card ได้ถึง 1TB ส่วนแบตเตอรี่ให้มาที่ 5000 mAh คู่กับระบบชาร์จไวถึง 67W ที่ใช้เวลาเพียง 15 นาที ก็ชาร์จได้ถึง 51% กันเลย

กล้องหลังของทั้ง Redmi Note 11 Pro และ Redmi Note 11 Pro 5G ก็จัดเต็มเหมือนเดิมด้วย กล้องหลักความละเอียด 108MP + กล้อง Ultrawide ความละเอียด 8MP + กล้อง Macro ความละเอียด 2MP + กล้องจับความลึก 2MP และกล้องเซลฟี่ 13MP

สเปค REDMI NOTE 11 PRO

  • หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรท 120Hz
  • CPU : Helio G96
  • RAM : 8GB (รองรับ Memory Extension ยืมความจุมาเติม RAM)
  • ความจุ (UFS 2.2) : 128GB
  • กล้องหลัง 4 ตัว
    – กล้องหลักความละเอียด 108MP
    – กล้อง Ultrawide ความละเอียด 8MP
    – กล้อง Macro ความละเอียด 2MP
    – กล้องจับความลึก 2MP
  • กล้องหน้า : 13MP
  • ระบบเสียง : ลำโพงสเตอรีโอ, รูหูฟัง 3.5 มม.
  • มาตรฐานกันน้ำ : IP53
  • แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับชาร์จไว 67W
  • ระบบ Android 11 ครอบด้วย MIUI 13
  • สีที่วางจำหน่าย : Graphite Gray, Polar White, Atlantic Blue, Star Blue

สเปค REDMI NOTE 11 PRO 5G

  • หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรท 120Hz
  • CPU : Snapdragon 695
  • RAM : 8GB (รองรับ Memory Extension ยืมความจุมาเติม RAM)
  • ความจุ (UFS 2.2) : 128GB
  • กล้องหลัง 4 ตัว
    – กล้องหลักความละเอียด 108MP
    – กล้อง Ultrawide ความละเอียด 8MP
    – กล้อง Macro ความละเอียด 2MP
    – กล้องจับความลึก 2MP
  • กล้องหน้า : 13MP
  • ระบบเสียง : ลำโพงสเตอรีโอ, รูหูฟัง 3.5 มม.
  • มาตรฐานกันน้ำ : IP53
  • แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับชาร์จไว 67W
  • ระบบ Android 11 ครอบด้วย MIUI 13
  • สีที่วางจำหน่าย : Graphite Gray, Polar White, Atlantic Blue, Star Blue

ราคาและวันวางจำหน่าย

ราคาของ Redmi Note 11 และ Redmi Note 11s ที่วางขายในบ้านเราก็มีตามนี้เลย

  • Redmi Note 11 (4GB / 128GB) : ราคา 6,299 บาท
  • Redmi Note 11 (6GB / 128GB) : ราคา 6,999 บาท
  • Redmi Note 11s (8GB / 128GB) : ราคา 8,299 บาท

Redmi Note 11 และ Redmi Note 11s ทุกรุ่นจะเริ่มวางจำหน่ายกับร้านค้าที่ร่วมรายการตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป และยังจะได้รับของแถมเป็นกระเป๋าผ้า Redmi Note 11 Series มูลค่า 590 บาท ไปด้วยนะ ส่วนอีก 2 รุ่น Redmi Note 11 Pro และ Pro 5G จะตามมาทีหลัง แต่ราคาจะอยู่ที่เท่าไหร่บ้างต้องมารอดูกันอีกทีครับ


ขอขอบคุณ – droidsans


รวมโปรเน็ตดีแทคสุดแรง คลิก

#โปรเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีแทค #สมัครเน็ตดีแทค

เผยรายละเอียด Lenovo Halo มือถือสเปคสุดท็อป

เผยรายละเอียด Lenovo Halo มือถือสเปคสุดท็อป

อย่างที่ทราบกันดีว่า Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 นั้นถือว่าเป็นขุมพลังตัวท็อปของ Qualcomm และหลายค่ายก็เลือกไปใส่ในมือถือของตัวเอง โดนล่าสุดนี้ Evan Blass ได้กมีเปิดเผยว่า Lenovo กำลังจะมีมือถือใหม่ที่มีชื่อรุ่นว่า Halo ออกมา พร้อมกับสเปกที่น่าสนใจไม่เบา

ย้ำไว้ก่อนมือถือรุ่นนี้ไม่ได้มาแทน Legion Duel 2 แต่ออกมาใหม่เลยที่เน้นเรื่องของความรวดเร็วที่หน้าจอ, ชาร์จไฟเร็ว, กล้องสวยมากขึ้นกว่าเดิม โดยมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.67 นิ้วความละเอียด 1080p+ และเป็นแบบ P-OLED มีค่า Refresh ที่ 144 Hz และ ค่าความไวในการสัมผัสหน้าจอที่ 300 Hz ส่วนกล้องหน้าติดตั้งความละเอียด 16 ล้านพิกเซล

ส่วนกล้องตัวหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล, กล้องมุมกว้าง 13 ล้านพิกเซล และมีกล้อง 2 ล้านพิกเซลช่วย ซึ่งเท่ากับกล้องความละเอียดจะน้อยกว่า Legion Duel 2 แต่มีการออกแบบให้ดูไม่ได้เป็น Gaming Smart phone

ทางด้านแบตเตอรี่มีขนาด 5000 mAh และมีความบางลงกว่า แถมชาร์จไฟไวด้วยกำลัง 68W เลยทีเดียว ด้านขุมพลัง Snapdragon 8 Gen 1 ยังให้ใช้บริการ แต่มี RAM ให้เลือกทั้ง 8/12/16GB ในแบบ LPDDR5 และมีหน่วยความจำในตัว 128 / 256GB แบบ UFS 3.1

กำหนดการเปิดตัวมือถือรุ่นนี้อาจจะเกิดขึ้นในครึ่งหลังของปีนี้ แต่จะเป็นอย่างไรรอติดตามกันต่อไป

ขอขอบคุณ – Sanook


รวมโปรเน็ตดีแทคสุดแรง คลิก

#โปรเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีแทค #สมัครเน็ตดีแทค