by Sokid Munkong | Dec 25, 2021 | Uncategorized
กระแสเทรนด์ของปี 2021 ที่กำลังมาแรง และปฏิเสธไม่ได้ก็คือ NFT ซึ่งถือเป็นเรื่องที่อยู่ในกระแสแรงไม่มีตก และคาดว่าจะแรงไปจนถึงปี 2022 แน่นอน!!
ล่าสุด SMS แรกของโลก ข้อความสุดปัง ที่เขียนว่า “Merry Christmas” ก็ได้ถูกนำไปทำเป็น NFT แล้วนำไปประมูลก่อนที่จะปิดราคาการประมูลได้มากถึง 1.5 แสนดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งหากคิดเทียบเป็นเงินไทยจะมีมูลค่าสูงถึงมากกว่า 5 ล้านบาท โดยครั้งนี้ ไม่มีการเปิดเผยชื่อผู้ที่ชนะการประมูลครั้งนี้
สำหรับประวัติของข้อความ SMS ของโลก เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ปี 19 92 หรือเมื่อราวๆ 29 ปีที่แล้ว โดยเป็นการส่งข้อความ จาก นีล แพ็พเวิร์ธ โปรแกรมเมอร์ ส่งไปถึง ริชาร์ด จาร์วิส ซึ่งในเวลานั้นเป็นผู้อำนวยการของ บริษัท โวดาโฟน ผู้ให้บริการเครือข่ายรายใหญ่ระดับโลก โดย SMS แรกของโลก เป็นการส่งจากโทรศัพท์ Orbitel รุ่นโบราณที่มีน้ำหนัก 2 กิโลกรัม
ย้อนกลับไปในเหตุการณ์นี้ เมื่อ 29 ปีที่ผ่านมา ริชาร์ด จาร์วิส เปิดเผยไว้ว่า
ในเวลานั้น นีล แพ็พเวิร์ธ ซึ่งเป็นโปรแกรมเมอร์ กำลังพยายามพัฒนารูปแบบการสื่อสารร่วมกับโวดาโฟน ก่อนที่จะสามารถปรับแต่งโค้ด จนสามารถสื่อสารข้อความจากโทรศัพท์เครื่องหนึ่ง ไปสู่โทรศัพท์อีกเครื่องได้สำเร็จ และที่เลือกส่งข้อความว่า “Merry Christmas” ก็เพราะว่านึกคำอื่นๆ ไม่ออก
นีล แพ็พเวิร์ธ ผู้ที่ส่งข้อความ SMS ครั้งแรกของโลกเปิดใจว่า เขาไม่คาดคิดว่า SMS จะฮิต ได้อย่างไรในปี 1992 แต่สุดท้าย การส่งข้อความของมนุษย์โลกก็พัฒนาเรื่อยมาจนถึง ปี 2021 มีคนส่งข้อความสั้น SMS หากันหลายพันล้านคน และมีรูปแบบการพัฒนาไปยังการส่ง อีโมจิ (เครื่องหมายแสดงอารมณ์) แล้ว
“ตอนปี 1992 ผมไม่คิดว่าการส่งข้อความมันจะฮิตได้ยังไง และตอนนี้มันก็ฮิตเรื่อยมาจนกระทั่งมี อีโมจิ และมี คนใช้แอปส่งข้อความนับหลายล้านคน” นีล แพ็พเวิร์ธ ผู้ที่ส่งข้อความ SMS ครั้งแรกของโลก เปิดใจ
สำหรับตลาด NFT นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่นวัตกรรมเทคโนโลยี ถูกประมูลได้ครั้งแรก เพราะเมื่อต้นปีที่่ผ่านมา จิมมี่ เวลส์ Jimmy Wales เพิ่งขาย Wikipedia ในเวอร์ชั่นแรก ด้วยมูลค่า $750,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 25 ล้านบาท
NFT คืออะไร ? NFT ย่อมาจาก Non Fungible Tokens สำหรับลักษณะเฉพาะตัว คือ ไม่มีอะไรมาทดแทนได้ เพราะมีเอกลักษณ์ มักถูกใช้กับงานศิลปะ เช่น รูปภาพ เพลง หนัง ไอเทมเกม ถูกซื้อขายบนตลาด(แพลตฟอร์ม) NFT เท่านั้น ไม่สามารถเทรดบนกระดานคริปโตทั่วไปอย่าง Bitkub หรือ Binance ได้เหมือน Bitcoin หรือ Eth NFT ซื้อขายกันที่ไหน? ตลาด NFT ต่างๆ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม ใช้ Eth ในการซื้อขาย เช่น – opensea.io ตลาดซื้อขายภาพในรูปแบบ NFT – NBA Top Shot: ตลาดซื้อขาย การ์ดสะสม สำหรับบาสเกตบอล NBA โดยเฉพาะ – Sorare: อีกหนึ่งตลาดสำหรับเกม ซึ่ง Sorare เป็นเกมบริหารจัดการทีมฟุตบอลที่จะต้องมีการซื้อขายการ์ดนักเตะ
ขอขอบคุณ – Nation Tvรวมโปรเน็ตดีแทคสุดแรง คลิก
by Sokid Munkong | Dec 24, 2021 | Uncategorized
ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา มีแบรนด์มือถือหลายๆค่ายได้อัพเดทเป็น Andriod 12 จนมาถึงคิวของค่าย Motorola บ้าง โดยมีทั้งหมด 29 รุ่นที่จะได้อัพ มีรายชื่อดังนี้
Motorola Razr 5G Motorola Razr 2020 Motorola Edge 20 Pro Motorola Edge 20 Motorola Edge 20 Lite Motorola Edge 20 Fusion Motorola Edge (2021) Motorola Edge 5G YOUR Motorola Edge Plus Motorola One 5G Ace Motorola One 5G YOUR Ace Motorola Moto G200 Motorola Moto G71 Motorola Moto G51 Motorola Moto G41 Motorola Moto G31 Motorola Moto G100 Motorola Moto G60s Motorola Moto G60 Motorola Moto G50 Motorola Moto G40 Fusion Motorola Moto G30 Motorola Moto G Power (2022) Motorola Moto G Pure Motorola Moto G Stylus 5G Motorola Moto G Pro (Business Edition) Motorola Edge (2021) (Business Edition) Motorola Edge 20 (Business Edition) Motorola Edge 20 Lite (Business Edition) Motorola Edge 20 Fusion (Business Edition)
แต่ทั้งหมดนี้ยังไม่ได้เปิดเผยว่าจจะได้อัปเกรดเมื่อไหร่ โดยทุกรุ่นที่เปิดตัวในปี 2020 – 2021 มักจะได้ทั้งหมด แต่สำหรับมือถือรุ่นปี 2019 ยังไม่แน่ชัดว่าจะเคลมได้หรือไม่คงต้องติดตามกันต่อไปขอขอบคุณ – Sanook รวมโปรเน็ตดีแทคสุดแรง คลิก
by Sokid Munkong | Dec 23, 2021 | Uncategorized
โดยข้อมูลแรกที่ปรากฏคือหน้าจอของเครื่อง iPhone 14 จะมีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่นได้แก่
iPhone 14 ขนาดหน้าจอ 1 นิ้ว Refresh Rate 60 Hz ยังคงมี Notch หรือติ่งขนาดใหญ iPhone 14 Max จะมีขนาดหน้าจอ 7 นิ้ว พร้อมกับ Notch Display iPhone 14 Pro จะมีหน้าจอขนาด 1 นิ้ว Refresh Rate 120 Hz และจอเป็นแบบ Punch Hole Display iPhone 14 Pro Max จะมาพร้อมกับ Refresh Rate 120 Hz และเป็นจอแบบ Punch Hole Display
ความน่าสงสัยคือเรื่องเดียวว่า iPhone 14 Max ขนาดหน้าจอ 6.7 นิ้ว จะมีใครผลิต หากไม่ใช่ LG เนื่องจากรายอื่นๆ เช่น Samsung ผลิตหน้าจอที่มีเทคโนโลยีสูงให้กับรุ่นสูงอย่าง iPhone 13 Pro / 13 Pro Max และลุ้นกันต่อไปว่าจะเป็น BOE หรือไม่
ทั้งนี้ต้องติดตามกันต่อไปว่า สเปกเหล่านี้จะเป็นจริงหรือไม่ขอขอบคุณ – Sanook รวมโปรเน็ตดีแทคสุดแรง คลิก
by Sokid Munkong | Dec 22, 2021 | Uncategorized
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบอนุมัติต่อโครงการ “คนละครึ่งเฟส4” โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่โอนเงินตั้งแต่ 1 มี.ค.-30 เม.ย. ปี 2565 เป็นระยะเวลา 2 เดือน ซึ่งจะใช้เงินที่เหลือจากโครงการคนละครึ่งเฟส 3 ทั้งนี้ทางกระทรวงการคลังจะมีการพิจารณาแนวทางปรับการลงทะเบียนใหม่ ส่วนวงเงินจะมีการหารืออีกครั้งว่าจะจ่ายในอัตรา 1,500 หรือ 3,000
ทั้งนี้การขยายโครงการ “คนละครึ่งเฟส4” เป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ เพื่อให้ระบบเศรษฐกิจเติบโต ทั้งนี้รายละเอียดการลงทะเบียนจะเป็นอย่างไรนั้นจะต้องมีการพิจารณาอีกครั้ง และจะมีการแจ้งให้ประชาชนทราบทั้งผู้ที่เคยลงทะเบียนในโครงการคนละครึ่งเฟส 3 ไปแล้ว และคนที่ยังไม่เคยลงทะเบียน
รายละเอียดการใช้จ่ายในโครงการ “คนละครึ่งเฟส4”
สนับสนุน 50 % โดยให้เป็นสิทธิคนละครึ่ง รับสิทธิไม่เกิน 150 บาท/คน/วัน ใช้จ่ายผ่านแอปฯเป๋าตัง กับร้านค้าที่ร่วมโครงการ สั่ง อาหารและเครื่องดื่ม (เท่านั้น) ผ่านฟู้ดเดลิเวอรี่ ใชเงินไม่หมดภายใน 1 วัน สามารถเก็บทบในยอดจำนวนเต็มได้ ระบบจะคืนสิทธิที่ไม่ได้ใช้เข้ายอดรวม และจะคำนวณสิทธิใหม่ในเวลา 6.00 น. ของวันถัดไป สามารถใช้ได้เวลา 06.00 – 23.00 น.
สำหรับโครงการ “คนละครึ่งเฟส 3” จะสิ้นสุด 31 ธ.ค.นี้ โดยผู้ได้รับสิทธิ์และมีการใช้จริง รวม 26.30 ล้านคน แบ่งใช้ครบวงเงินที่ให้ 6.5 ล้านคน ส่วนอีก 19.80 ล้านคน ใช้สิทธิ์แต่ยังไม่เต็มวงเงินที่ให้ โดยรัฐบาลได้โอนเงินให้รวม 3,000 บาท ตั้งแต่ ก.ค.-ธ.ค.2565 เข้าแอปฯเป๋าตังของประชาชน เพื่อเป็นการกระตุ้นการใช้จ่าย เสริมสภาพคล่องให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้มากยิ่งขึ้น สำหรับโครงการคนละครึ่งเฟส 3 นั้นมีประชาชนใช้จ่ายไปแล้ว สำหรับโครงการ “คนละครึ่งเฟส 3” ทำเงินสะพัดกว่า 2.04 แสนล้าน ใช้ผ่านฟู้ดเดลิเวอรี่ 3.1 พันล้าน กระทรวงการคลัง รายงาน โครงการ
คนละครึ่งเฟส 3 ข้อมูล ณ 16 ธ.ค.64 ทำเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจแล้วกว่า 204,325 ล้านบาท มีการใช้จ่ายกับร้านค้าแต่ละประเภท ได้แก่ ร้านอาหารและเครื่องดื่ม 81,255 ล้านบาท ร้านค้าทั่วไป 76,750 ล้านบาท ร้านธงฟ้า 32,786 ล้านบาท ร้าน OTOP 9,777 ล้านบาท ร้านบริการ 3,521 ล้านบาท และขนส่งสาธารณะ 234 ล้านบาท
ส่วนข้อมูลการใช้จ่ายผ่านฟู้ดเดลิเวอรี่ ณ 17 ธันวาคม 2564 มียอดสะสมประมาณ 3,181 ล้านบาท และมีผู้ประกอบการร้านอาหารเครื่องดื่มโครงการคนละครึ่งที่ขายผ่านฟู้ดเดลิเวอรี่ประมาณ 80,000 ราย ขอขอบคุณ – คมชัดลึกรวมโปรเน็ตดีแทคสุดแรง คลิก
by Sokid Munkong | Dec 21, 2021 | Uncategorized
Huawei กำลังจะเปิดตัวมือถือและ Gadget ใหม่ในวันที่ 23 ธันวาคมนี้ และยังมีการยืนยันชื่อออกมาว่ามันคือ Huawei P50 Pocket แน่นอนว่า รุ่นนี้ต้องมีดีอะไรบางอย่าง ล่าสุด มีการเปิดเผยสเปกออกมาแล้วโดยรายละเอียดมีดังนี้
ด้านนอกจะมีหน้าจอขนาด 1 นิ้วเป็นแบบวงกลม แต่ถ้ากางออกมาจะพบกับจอขนาด 6.85 นิ้ว (ยังไม่ระบุความละเอียด) ใต้กล้องจะมีกล้องทั้งหมด 3 ตัวประกอบด้วย ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล จาก Sony IMX766 , กล้องมุมกว้างความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และ Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซลซูมได้ 3 เท่า คาดว่า P50 Pocket จะใช้ขุมพลัง Kirin 9000 แต่ถูกจำกัดให้ใช้แค่ 4G
แบตเตอรี่ขนาด 4100 mAh ชาร์จไฟเร็วสุดกำลัง 66W ซึ่งได้เปรียบคู่แข่งอย่างมากในจุดนี้ แต่ทั้งหมดนั้นจะเป็นจริงแท้แค่ไหนต้องรอติดตามอีกไม่นานหลังจากนี้ขอขอบคุณ – Sanook รวมโปรเน็ตดีแทคสุดแรง คลิก
by Sokid Munkong | Dec 20, 2021 | Uncategorized
การแข่งขันกีฬาอีสปอร์ต เกม RoV รายการชิงแชมป์นานาชาติ Arena of Valor International Championship หรือ AIC 2021 เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม รอบแกรนด์ไฟนอล บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อีสปอร์ตส์ จากประเทศไทย พบกับ วี เกมมิ่ง จากเวียดนาม
โดยคู่นี้ทีมตัวแทนจากไทยเริ่มต้นได้ดี ออกนำไปก่อนในเกมแรก 1-0 เกม แต่หลังจากนั้นเป็นฝั่ง วี เกมมิ่ง ที่กลับมาเล่นได้ตามฟอร์มเก่งของตัวเอง แซงนำ 3-1 เกม ต้องการอีกเกมเดียวเพื่อเป็นแชมป์
อย่างไรก็ตามในเกมที่ 5 ฝั่งปราสาทสายฟ้ายังฮึดสู้ไม่ยอมแพ้ และไล่ตีตื้นขึ้นมาเป็น 2-3 เกม ก่อนจะสานต่อความแรงของตัวเองได้ในเกมถัดมา ไล่ตีเสมอ 3-3 เกม ต้องไปตัดสินตำแหน่งแชมป์กันในเกมที่ 7 ซึ่งจะเป็นการรีเซ็ต Pick/Ban ทั้งหมดขอขอบคุณ – Matichon รวมโปรเน็ตดีแทคสุดแรง คลิก
by Sokid Munkong | Dec 19, 2021 | Uncategorized
นักวิจัยความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity researcher) จาก Pradeo ได้อัปเดตบทความระบุแอปพลิเคชันมือถือบน Google Play Store ที่มีมัลแวร์โจ๊กเกอร์ (Joker Malware) ติดมาด้วย โดยแอปพลิเคชัน Color Message เป็นแอปพลิเคชันล่าสุดที่ถูกตรวจพบ!
Color Message เป็นแอปพลิเคชันที่อนุญาตให้คนปรับแต่งข้อความ SMS ตามความชอบของผู้ใช้ โดยมีผู้ใช้ Android ที่ดาวน์โหลดไปมากถึง 500,000 ครั้ง และบางคนได้ค้นพบจุดประสงค์ของผู้พัฒนาที่แท้จริงแล้ว แม้อาจจะสายเกินไป
เป้าหมายของ Joker คือกลุ่มผู้ที่กด Subscribe ของแอป และแอบสมัครบริการต่าง ๆ โดยจำลองการคลิกและแทรกข้อความ SMS ต่างๆ ทั้งยังสามารถโขมยข้อมูลจาก SMS ทั้งเนื้อหา รายการผู้ติดต่อ และข้อมูลของอุปกรณ์ได้อีกด้วย
Pradeo อธิบายว่า Joker เป็นมัลแวร์ที่สามารถตรวจพบได้ยาก เพราะมันใช้โคดเพียงเล็กน้อยและแอบแฝงตัวอย่างมิดชิด ทั้งตัวแอป Color Message ยังถูกลบออกได้ยากเพราะมันสามารถซ่อนไอคอนตนเองหลังจากการติดตั้งได้อีกด้วย
ตัวอย่างการรีวิวจากผู้ใช้จะเห็นได้ว่า มีคนที่โดนหลอกโขมยเงินจากแอปดังกล่าวแล้ว และได้พยายามแจ้งเตือนผู้ใช้คนอื่น ๆ ว่าอย่าโหลดแอปพลิเคชันดังกล่าว ล่าสุด Google ได้ลบ Color Message ทิ้งไปแล้ว และแนะนำให้คนที่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันนี้รีบถอนการติดตั้งให้เร็วที่สุด! Joker เป็นมัลแวร์ที่แฝงตัวอยู่ในแอปใน Play Store หลายร้อยแอปตลอดหลายปีที่ผ่านมา และตัวอย่างแอปที่ถูกค้นพบว่ามีมัลแวร์ดังกล่าวนั้นได้แก่ แอป Squid Game ของปลอม (fake Squid Game) ที่มีผู้ใช้ดาวน์โหลดไปหลายพันครั้งขอขอบคุณ – Sanook รวมโปรเน็ตดีแทคสุดแรง คลิก
by Sokid Munkong | Dec 18, 2021 | Uncategorized
ใกล้แล้วที่ Samsung Galaxy Tab S8 Series จะเผยโฉม ถือว่าเป็น Tablet ที่ดีที่สุดของ Samsung โดยมีรายละเอียดที่น่าสนใจโดยเฉพาะตัวท็อปอย่าง Tab S8 Ultra เป็นต้น ล่าสุดมีสเปกของเครื่องมีอยู่ที่ 14.6 นิ้ว ความละเอียดหน้าจอ 2960×1848 พิกเซล ใช้ Panel แบบ Super AMOLED พร้อมกับ Refresh Rate 120Hz
ความบางของเครื่องอยู่ที่ 6.3 มิลลิเมตร กล้องหน้าติดตั้งมาให้ทั้ง 2 ตัวความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ทำให้มี Notch หรือติ่งที่หลายคนเห็นนั่นเอง ทั้งนี้ในรุ่นนี้จะได้ขุมพลัง Snapdragon 8 Gen 1 พร้อมกับ RAM 8 / 12 / 16GB ความจำให้เลือกมีทั้ง 128 / 256 และ 512GB ทั้งนี้ยังไม่ระบุว่าเพิ่มความจำได้หรือไม่
แบตเตอรี่ของ Tab S8 Ultra อยู่ที่ 11,200 mAh รองรับกำลังชาร์จไฟ 45W ให้มาในกลอ่อง ด้านหลังมีกล้องความละเอียด 13 + 6 ล้านพิกเซล คาดว่า Software จะใช้ One UI 4.1 พร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 12 และมีฟีเจอร์ของ Samsung Dex ฟีเจอร์สลับไปยัง Desktop Mode -องเครื่องและ เพิ่มความสว่าง หรือ Extra Dim เป็นต้น ทั้งหมดนี้คาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงแรกของปี 2022 นี้ แต่จริงหรือไม่ต้องรอดูกันต่อไปขอขอบคุณ – Sanoook รวมโปรเน็ตดีแทคสุดแรง คลิก
by Sokid Munkong | Dec 17, 2021 | Uncategorized
ในเดือนพฤศจิกายน MediaTek ได้เปิดตัวชิปเรือธงประจำปี 2022 Dimensity 9000 5G และล่าสุดมีการยืนยันรายชื่อบริษัทผู้ผลิตสมาร์ตโฟนที่จะเป็นกลุ่มแรกที่ได้ใช้ชิป SoC รุ่นนี้แล้ว ได้แก่ OPPO, Vivo, Xiaomi และ Honor โดยทั้ง 4 แบรนด์จะเปิดตัวสมาร์ตโฟนที่ใช้ชิปดังกล่าวในไตรมาสที่ 1 ปี 2022
Dimensity 9000 เป็นชิปเซต 5G ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี 4 นาโนเมตรของ TSMC ทำให้มีประสิทธิภาพและประหยัดพลังงานมากขึ้น ทั้งติดตั้งชิป 5G ตัวใหม่รองรับย่านความถี่ sub-6GHz และเป็นชิปเซตสมาร์ตโฟนรุ่นแรกที่รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.3
รองประธานของ OPPO เปิดเผยว่า OPPO ตระกูล Find X จะเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกที่เปิดตัวพร้อม Dimensity 9000 ซึ่งคาดว่าจะเป็นรุ่น Find X4 ในขณะที่ Find X4 Pro จะใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 1
ทางด้านรองประธานของ Xiaomi ก็ยืนยันว่าไลน์อัป Redmi K50 จะเป็นสมาร์ตโฟนที่มาพร้อมชิปรุ่นดังกล่าว แม้ทางบริษัทยังไม่บอกว่า Redmi K50 รุ่นใดที่จะใช้ Dimensity 9000 แต่คาดการณ์ว่า K50 Gaming จะเป็นรุ่นที่ได้ใช้ชิปเรือธงตัวใหม่ของ MediaTek ไป
สำหรับ Vivo และ Honor ยังไม่มีการประกาศว่า อุปกรณ์รุ่นใดที่จะเปิดตัว แต่ทั้ง 2 แบรนด์ได้บอกใบ้ว่า สมาร์ตโฟนรุ่นต่อไปจะเป็นสมาร์ตโฟน 5G รุ่นเรือธงรุ่นใหม่ (new generation 5g mobile phone) ที่มีประสิทธิภาพอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เพื่อผลักดันความสามารถด้าน 5G และนวัตกรรมขอขอบคุณ – Sanook รวมโปรเน็ตดีแทคสุดแรง คลิก
by Sokid Munkong | Dec 16, 2021 | Uncategorized
OPPO บริษัทเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลก ประกาศเปิดตัว OPPO Find N สมาร์ทโฟนแฟล็กชิพจอพับรุ่นแรก (Foldable flagship smartphone) ในวันที่สองของการจัดแสดงนวัตกรรม OPPO INNO DAY 2021 ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนที่เกิดจากการวิจัยและพัฒนาเป็นระยะเวลานานถึง 4 ปี และสร้างโปรโตไทป์แล้วถึง 6 รุ่นด้วยกัน ทำให้ OPPO Find N สามารถมอบอีกขั้นของรูปแบบสมาร์ทโฟนแบบจอพับ พร้อมมอบประสบการณ์ใหม่ๆ ให้แก่ผู้ใช้งาน ทั้งผู้ใช้งานที่เคยและไม่เคยใช้สมาร์ทโฟนแบบจอพับได้
Pete Lau, Chief Product Officer of OPPO กล่าวว่า “รูปแบบสมาร์ทโฟนใหม่นี้ ถือเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นของวงการเทคโนโลยีสมาร์ทโฟน โดย OPPO ใช้เวลาและความพยายามอย่างมากในการสรรหาวิธีการต่างๆ ที่สามารถสร้างสมาร์ทโฟนจอพับที่มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น เราจึงได้ทำการทดลองมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ปัจจัยด้านรูปแบบ ดีไซน์การพับ วัสดุของจอแสดงผล และอัตราส่วนด้านภาพ เพื่อสร้างอุปกรณ์ใหม่ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้มากขึ้นด้วย OPPO Find N โดยเราหวังว่าจะสามารถเปลี่ยนมุมมองด้านรูปแบบของสมาร์ทโฟน พร้อมมุ่งมั่นที่จะมอบสมาร์ทโฟนจอพับไปสู่ผู้คนที่กว้างขวางมากยิ่งขึ้น”
นำความแปลกใหม่สู่ความจำเป็นต่อการใช้งาน
OPPO Find N สามารถมอบทั้งเทคโนโลยีอันล้ำสมัยและคุณภาพการใช้งานขั้นสุด เพื่อมอบประสบการณ์ในการใช้งานสมาร์ทโฟนจอพับที่ดียิ่งขึ้น โดยเมื่อพับสมาร์ทโฟน ตัวเครื่องจะมีขนาดกะทัดรัด แต่อัดแน่นไปด้วยฟังก์ชันมากมาย และเมื่อกางออก ตัวเครื่องก็จะมอบหน้าจอแสดงผลที่เต็มตา พร้อมดื่มด่ำได้เต็มอรรถรส
Landscape Ratio
OPPO Find N ถือเป็นสมาร์ทโฟนจอพับเครื่องแรกที่มีอัตราส่วนของหน้าจอด้านในตัวเครื่องเป็นแบบแนวนอน (landscape) โดยผู้ใช้งานสามารถปรับเปลี่ยนการใช้หน้าจอได้อย่างสะดวกสบายไร้รอยต่อ ระหว่างหน้าจอด้านในขนาด 7.1 นิ้ว และหน้าจอด้านนอกขนาด 5.49 นิ้ว มอบประสบการณ์การรับชมแบบเต็มตา หมดห่วงเรื่องขนาดของหน้าจอและประสิทธิภาพการใช้งาน โดยหน้าจอด้านในมีอัตราส่วนของภาพ 8.4:9 ซึ่งเมื่อกางออก หน้าจอด้านในจะเปลี่ยนเป็นหน้าจอแบบแนวนอน (landscape mode) ได้ในทันที มอบประสบการณ์การรับชม เล่นเกม หรืออ่านหนังสือ ได้อย่างสะดวกสบาย โดยไม่จำเป็นต้องหมุนตัวเครื่องเพิ่มเติม และเมื่อพับสมาร์ทโฟน หน้าจอจะมีอัตราส่วนของภาพที่ 18:9 มอบประสบการณ์การใช้สมาร์ทโฟนที่คุ้นเคยและเต็มตา พร้อมสามารถใช้งานอย่างง่ายดายได้ด้วยมือเดียว
Flexion Hinge หรือบานพับ
Flexion Hinge หรือบานพับของ OPPO Find N ประกอบด้วยส่วนประกอบมากมายถึง 136 ชิ้น ซึ่งมีความละเอียดสูงถึง 0.01 มม. มอบประสบการณ์การใช้งานบานพับที่ราบรื่นเสมือนข้อต่อของร่างกายมนุษย์ โดย OPPO ดีไซน์บานพับแบบ water-drop hinge ในการแก้ไข pain point ที่ใหญ่ที่สุดของอุปกรณ์แบบพับ ด้วยการขยายมุมของจอแสดงผลที่ใช้ในการพับ พร้อมสร้างบัฟเฟอร์รองรับเมื่อพับจอแสดงผล ทำให้หน้าจอมีรอยพับที่สามารถสังเกตุเห็นได้ลดลงถึง 80% อ้างอิงข้อมูลจาก TUV เมื่อเทียบกับอุปกรณ์แบบพับรุ่นอื่นๆ นอกจากนี้ การออกแบบนี้ยังช่วยลดช่องว่างระหว่างจอแสดงผลเมื่อพับจอ อีกทั้งยังช่วยมอบรูปลักษณ์แบบไร้รอยต่อและช่วยป้องกันรอยขีดข่วนของจอแสดงผลด้านในได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
FlexForm Mode
โครงสร้างของ Cam และสปริงภายในบานพับ (Flexion Hinge) อันล้ำสมัย จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถกางหน้าจอแสดงผลได้อย่างอิสระระหว่าง 50-120 องศา และเมื่อรวมกับฟีเจอร์ด้านซอฟต์แวร์มากมายในตัวเครื่อง ทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ประโยชน์จากหน้าจอแสดงผลแบบพับได้มากมาย โดย FlexForm Mode บน OPPO Find N จะช่วยให้ผู้ใช้ปรับหน้าจอของอุปกรณ์ได้อย่างอิสระ เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานในสถานการณ์ที่หลากหลาย
OPPO ได้ปรับแต่งอินเทอร์เฟซสำหรับการใช้งาน เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพในแอปพลิเคชันต่างๆ ที่รองรับได้ดีมากยิ่งขึ้น เช่น แอปเล่นเพลง โน้ตสำหรับบันทึก และกล้อง ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้งานสามารถใช้โน้ตสำหรับบันทึก ด้วยการเปลี่ยน OPPO Find N เป็นโน้ตบุ๊กขนาดเล็กได้ เพราะ OPPO Find N สามารถวางตั้งได้อย่างอิสระด้วยมุมการพับต่างๆ ของหน้าจอ ทำให้ผู้ใช้สามารถจดบันทึกได้โดยไม่จำเป็นต้องถืออุปกรณ์ นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังสามารถเป็นขาตั้งกล้องเองได้อีกด้วย ไม่ว่าผู้ใช้งานจะถ่ายภาพแบบ time-lapse ด้วยความละเอียด 4K HD, วิดีโอคอล และประชุมออนไลน์ ก็สามารถทำได้อย่างสะดวกสบายแบบไม่ต้องจับถือ
Serene Display
ด้วย Serene Display ที่มีถึง 12 เลเยอร์จาก OPPO ทำให้หน้าจอมีความทนทานและมีการป้องกันที่ดีเยี่ยม ซึ่งเมื่อทำงานร่วมกับ Flexion Hinge หรือบานพับแล้ว ก็ยิ่งทำให้สามารถมอบประสบกาณ์การพับหน้าจอที่ราบรื่น โดยจอแสดงผลประกอบด้วยเลเยอร์ของ Flexion UTG (กระจกบางพิเศษ) ที่บางเพียง 0.03 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับกระจกสำหรับสมาร์ทโฟนทั่วไปจะหนาถึง 0.6 มิลลิเมตร ทำให้หน้าจอสามารถโค้งงอได้อย่างง่ายดาย พร้อมมีความทนทานอย่างมาก ซึ่งจากการตรวจสอบโดย TUV หน้าจอ Serene Display จะสามารถพับได้มากกว่า 200,000 ครั้ง พร้อมคงประสบการณ์การพับที่ราบรื่นและไร้รอยพับบนหน้าจอ
สำหรับจอแสดงผลด้านในมีการใช้หน้าจอแสดงผลแบบ LTPO พร้อมเทคโนโลยี dynamic refresh rate อัจฉริยะที่สามารถปรับรีเฟรชเรทระหว่าง 1-120 Hz ได้ ด้วยการอิงจากสิ่งที่ผู้ใช้งานกำลังรับชม นอกจากนี้จอแสดงผลด้านในยังมีอัตราการตอบสนองต่อการสัมผัสที่สูงถึง 1,000 Hz
OPPO มีการปรับแต่งค่าความสว่างและการปรับเทียบสีระหว่างจอแสดงผลทั้งด้านในและด้านนอก เพื่อมอบประสบการณ์การรับชมที่ราบรื่นให้แก่ผู้ใช้งาน โดยหน้าจอทั้งสองสามารถปรับความสว่างอัตโนมัติได้ถึง 10,240 ระดับ พร้อมค่าความสว่างสูงสุดถึง 1,000 nits มอบความสะดวกสบายในการรับชมในทุกสภาพแสง
นวัตกรรมด้านซอฟต์แวร์
ประสบการณ์ซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์แบบพับที่ยอดเยี่ยม ถือเป็นอีกขั้นของรูปแบบสมาร์ทโฟนแบบใหม่นี้ พร้อมมอบประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้แก่ผู้ใช้งานได้ โดยจอแสดงผลด้านในขนาด 7.1 นิ้วของ OPPO Find N มีพื้นที่หน้าจอกว้างกว่าจอแสดงผลมาตรฐานขนาด 6.5 นิ้ว ถึง 60% มอบประสบการณ์การรับชมที่เต็มตาสมจริงมากยิ่งขึ้น พร้อมสร้างโอกาสในการใช้งานนวัตกรรมด้านซอฟต์แวร์ในหลากหลายสถานการณ์มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การทำงานหลายอย่างพร้อมกัน หรือ การทำงานแบบมีประสิทธิภาพ
เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเมื่อกางหน้าจอออก เสมือนใช้แท็บเล็ตขนาดใหญ่ขึ้น OPPO Find N จึงได้รวบรวมการโต้ตอบใหม่ๆ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งานหลายอย่างพร้อมกันได้ง่ายมากขึ้น โดยเมื่อใช้งานแอปพลิเคชัน ผู้ใช้สามารถแบ่งหน้าจอออกเป็นสองส่วนได้ด้วยการใช้สองนิ้วปัดลงตรงกลางอุปกรณ์ หรือใช้สี่นิ้วบีบตรงหน้าจอเพื่อเปลี่ยนหน้าต่างแอปแบบเต็มจอให้เป็นหน้าต่างแบบลอยได้ นอกจากนี้ OPPO Find N ยังรองรับการโต้ตอบแบบมาตรฐาน เช่น ผู้ใช้งานสามารถกดค้างบนไอคอนที่รองรับ เพื่อลากไอคอนไปมา พร้อมใช้งานแอปพลิเคชันหลายแอปไปพร้อมกันขณะแบ่งจอบนหน้าจอหลักได้
นอกจากนี้ ซอฟต์แวร์ของ OPPO Find N ยังได้รับการปรับแต่งให้เหมาะสมต่อการใช้งาน ให้ผู้ใช้สามารถใช้งานสลับระหว่างสองหน้าจอไปมาได้อย่างราบรื่นและเป็นธรรมชาติ โดยเมื่อกางออก การแสดงผลจะย้ายจากหน้าจอด้านนอกไปยังหน้าจอหลักด้านในได้อย่างราบรื่น และเมื่อต้องการพับหน้าจอ ผู้ใช้งานสามารถปัดขึ้นที่หน้าจอด้านนอก เพื่อให้สามารถใช้ฟังก์ชันเดิมบนหน้าจอด้านนอกได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บนหน้าจอด้านในที่มีขนาดใหญ่ขึ้น OPPO ยังมอบรูปแบบของคีย์บอร์ดที่สามารถปรับแต่งได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การแบ่งคีย์บอร์ดบนหน้าจอ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถใช้คีย์บอร์ดได้สองมือพร้อมกัน พร้อมมอบการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
กล้อง
OPPO Find N มาพร้อมกล้องระดับแฟล็กชิพถึง 3 ตัว มอบการถ่ายภาพและวิดีโอคุณภาพสูง ประกอบด้วยเซ็นเซอร์หลัก Sony IMX 766 ความละเอียด 50MP, เลนส์ ultra-wide 16MP และ เลนส์ telephoto 13MP อีกทั้งยังมีกล้องหน้าทั้งบนหน้าจอด้านในและด้านนอกอีกด้วย โดยเมื่อผสมผสานรูปแบบสมาร์ทโฟนใหม่และความสามารถของ FlexForm Mode ทำให้ OPPO Find N สามารถมอบประสบการณ์การใช้กล้องที่แปลกใหม่ให้แก่ผู้ใช้งานจากซอฟต์แวร์ที่ปรับแต่งเอง พร้อมใช้ประโยชน์จากรูปแบบสมาร์ทโฟนจอพับได้อย่างเต็มที่
Flexion Hinge หรือบานพับของ OPPO Find N ทำให้อุปกรณ์สามารถใช้งานเป็นขาตั้งกล้องเองได้ พร้อมกลายเป็นแก็ตเจ็ตขนาดกะทัดรัดและพกพาง่าย สะดวกในการถ่ายภาพในสถานการณ์ต่างๆ เช่น FlexForm Mode จะทำให้ผู้ใช้สามารถถ่าย time-lapse คุณภาพระดับ 4K HD ได้อย่างง่ายดายและไม่จำเป็นต้องจับถือด้วยการพับหน้าจอระหว่าง 50-120 องศา นอกจากนี้ time-lapse mode ยังประกอบไปด้วยเทมเพลตถึง 3 แบบ ได้แก่ light trails, night sky และ sun & clouds ที่ผู้ใช้สามารถปรับการตั้งค่าการภาพถ่ายและวิดีโอให้เหมาะสมในคลิกเดียว เพื่อการถ่ายภาพดาราศาสตร์ที่น่าดึงดูดและสร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น อีกทั้งเมื่อพับหน้าจอในมุมที่ต่ำกว่า 60 องศา กล้องจะเลื่อนการแสดงตัวอย่างภาพถ่ายไปที่หน้าจอด้านล่างโดยอัตโนมัติ เพื่อให้คุณตั้งมุมกล้องในการถ่ายภาพได้ง่ายขึ้น
โดยอินเทอร์เฟซการแบ่งจอสำหรับการภาพถ่ายแบบใหม่ บน OPPO Find N จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้จอแสดงผลด้านในที่มีขนาดใหญ่เต็มตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการใช้หน้าจออีกฝั่งหนึ่งในการถ่ายภาพ และใช้ฝั่งที่เหลือในการดู แชร์ หรือลบรูปภาพล่าสุดที่คุณถ่ายได้ นอกจากนี้ เมื่อผู้ใช้ถ่ายภาพด้วยกล้องหลักขณะกางหน้าจอ ผู้ใช้จะสามารถใช้งานได้ทั้งจอแสดงผลด้านในและด้านนอก เพื่อให้ทั้งผู้ใช้และตัวแบบสามารถดูภาพตัวอย่างก่อนถ่ายไปพร้อมๆ กันได้
นอกจากนี้ ด้วยกล้องหลังที่ทรงพลังมากขึ้น ยังทำให้ผู้ใช้สามารถเซลฟี่ด้วยภาพคุณภาพสูงได้ ด้วยการใช้หน้าจอด้านนอกในการดูตัวอย่างภาพถ่าย อีกทั้ง ผู้ใช้งานยังสามารถเซลฟี่ด้วยการใช้ท่าทางของมือได้ ช่วยให้ผู้ใช้เซลฟี่ได้อย่างง่ายดายแบบไม่หลุดเฟรมและไม่ต้องกดปุ่มชัตเตอร์
การออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์
OPPO Find N ถือเป็นสมาร์ทโฟนจอพับรุ่นแรกที่มีดีไซน์ที่ขอบทั้งสองข้างของตัวเครื่องด้านนอกเป็นแบบโค้ง 3 มิติ เพิ่มความสบายในการจับและมอบรูปลักษณ์แบบบางเฉียบ โดยฝาหลังและโมดูลกล้องด้านหลัง มีดีไซน์แบบ fluid curve เหมือนกับดีไซน์ของ OPPO Find X3 Pro 5G ซึ่งเส้นโค้งที่เพรียวบางของตัวกล้อง จะช่วยลดความสูงของโมดูลกล้องได้ สำหรับฝาหลังมีการใช้ Gorilla Glass Victus ผสมผสานกับเพลตกล้องเซรามิก มอบสัมผัสแบบพรีเมียมสง่างาม
โดย OPPO Find N มาพร้อมสีสันที่โดดเด่นถึง 3 สีด้วยกัน ได้แก่ สี Black ที่มีการผสมผสานระหว่างกระจกแบบด้านที่มีประกายระยิบระยับ และเทคนิคการเคลือบฟิล์มแบบใหม่ มอบเอฟเฟกต์บนชั้นเบสที่มีความระยิบระยับพรีเมียม สำหรับสี White ได้รับแรงบันดาลใจจากการเคลือบเซรามิกสีขาวด้วยกระจกเงา พร้อมพื้นผิวที่เต็มไปด้วยรายละเอียดอันประณีต ซึ่งมีความเข้ากันกับเพลตกล้องเซรามิก มอบรูปลักษณ์ที่มีความสมดุลเข้ากันได้เป็นอย่างดี สำหรับสี Purple เป็นสีที่ชวนให้ระลึกถึงขวดน้ำหอมสุดหรู ซึ่งสร้างจากชั้นฟิล์มที่ปรับแต่งเองหลากหลายชั้น ในการสร้างเอฟเฟ็กต์ของแสง และสร้างเงาจากพื้นผิวแบบโปร่งใส
ประสิทธิภาพการใช้งาน
OPPO Find N มาพร้อม Qualcomm® Snapdragon™ 888 Mobile Platform พร้อมด้วย LPDDR5 RAM สูงสุดถึง 12 GB และ ROM UFS 3.1 ถึง 512 GB รวมถึงมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4,500 mAh สามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้ตลอดทั้งวัน พร้อมทั้ง 33W SuperVOOC Flash Charge ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ถึง 55% ใน 30 นาที และ 100% ใน 70 นาที นอกจากนี้ยังมาพร้อม 15W AirVOOC Wireless Charging ที่รองรับมาตรฐานระดับ Qi และ 10W Reverse Wireless Charging อีกด้วย อีกทั้ง OPPO Find N ยังมาพร้อมการสแกนลายนิ้วมือด้านข้างบนปุ่มเปิดปิดหน้าจอ รวมถึง ลำโพงแบบคู่ และ Dolby Atmos มอบประสบการณ์เสียงกระหึ่มสมจริงยิ่งขึ้น
การวางจำหน่าย
OPPO Find N พร้อมวางจำหน่ายในประเทศจีน ตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2564ขอขอบคุณ – Sanook รวมโปรเน็ตดีแทคสุดแรง คลิก